thk-esumitoki.bsky.social
恵澄 辰 (เอสุมิ โทคิ) | Y.2 | ชมรมดนตรีสากล
#THK_commu | Doc : https://bit.ly/Esumi-Toki
106 posts
1,224 followers
1,407 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to
post
(ขอบคุณที่เปิดโรลนะค้าบบ ซากิคุงกร้าวใจมากกกก ถึงพริกถึงขิงสุดๆ รอบหน้าขออีกนะคั—)
comment in response to
post
ไม่รู้หรอกว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ต่อให้จะบาดเจ็บจนขยับตัวไม่ไหว แต่ชัยชนะในครั้งนี้ก็นับว่าเพียงพอสำหรับเขาแล้ว
comment in response to
post
ข้อเท้าซ้ายที่ไม่เหลือแรงแล้วเกิดก้าวพลาดจนพลิก ทั้งร่างของโทคิเซไปข้างหน้าแต่ในจังหวะนั้นซากิก็ตามเขามาทันพอดี ล้มลงนอนหงายกับพื้นโดยไม่เหลือเรี่ยวแรงจะหนีแล้ว
เพียงแต่ใบหน้าของเขากลับปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
มือข้างหนึ่งเหยียดขึ้นไปเหนือหัว เคาะบนฐานหินเก่าแผ่นหนึ่งตรงประตูหน้าศาลเจ้าพอดี
"ฉันชนะแล้ว"
(+)
comment in response to
post
เสียงหอบหายใจจากคนที่ฝืนร่างกายวิ่งมาจนถึงตอนนี้ เท้าที่เจ็บแปล๊บทุกครั้งที่ลงน้ำหนัก ไม่สิ... มันเริ่มชาแถมยังแทบทรงตัวไม่อยู่แล้วด้วย
"แค่ก—!"
ร่างกายเขาเริ่มถึงขีดจำกัดที่จะหนีแล้ว ความบอบช้ำที่หน้าท้องจนไอออกมาเป็นระยะ แถมยังวิ่งได้ไม่เร็วเท่าก่อนหน้านี้อีก
หากถูกจับได้อีกครั้ง รอบนี้เขาคงไม่เหลือแรงจะดิ้นหลุดได้แล้วจริงๆ
พรืด!
"อะ!"
(+)
comment in response to
post
แปะ!
เลือดของเขาที่กำอยู่ในมือสาดเข้าที่ตาของซากิ แล้วตามด้วยยันต์ที่เขาเก็บเอาไว้กรณีฉุกเฉิน
ฉุกเฉิน... แต่ก็ไม่คิดว่าต้องเอามาใช้กับเพื่อนตัวเองแบบนี้เลย
"ใช่ และนายก็ไม่ได้เห็นฉัน 'ตอนนี้' เหมือนกัน!"
เตะอัดหน้าให้เสยขึ้นเปิดทางให้ตัวเขากัดฟันลุกขึ้นวิ่งอีกครั้ง ศาลเจ้าอยู่ตรงหน้าอีกไม่กี่ก้าวแล้ว อีกนิดเดียว...
comment in response to
post
ผั๊วะ!
ยกเท้าขึ้นถีบหน้าท้องแต่ก็ดูจะไม่ได้สะเทือนอีกฝ่ายเอาเสียเลย กลับกันนั้นเขากลับถูกต่อยซ้ำเข้าที่ท้องกลับซะเต็มแรง
"อ่อก—!!"
โลหิตสีแดงออกมาจากปาก เปรอะไปทั้งมือของเขาราวกับในฉากหนังสยองขวัญที่เคยดูเลย
ร่างถูกตะปบลงพื้น แท้จริงแล้วเขาไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่ว่า...
(+)
comment in response to
post
เขาใช้เวลาอยู่ไม่นานก็ใกล้จะถึงศาลเจ้าแล้ว
ใกล้แล้ว อีกไม่กี่—
ตึง!
"เหะ— อึ่ก!!"
ร่างกายเอนเซตามแรงฉุดก่อนหลังที่เจ็บอยู่แล้วจะกระแทกต้นไม้เข้าอย่างจัง ของเหลวกลิ่นสนิมที่ตีตื้นจากลำคอ มือจิกลงบนแขนอีกฝ่ายที่กระชากหัวเขา กัดฟันกรอดเค้นคำออกมา
"เหอะ! เบียวฮันนิบาลอยู่รึไง"
(+)
comment in response to
post
"ซากิ"
เขาเอ่ยเรียกเพื่อนอีกครั้ง ก่อนมองไปยังทิศที่เป็นศาลเจ้า
"มาวิ่งแข่งกัน!"
"ถ้านายชนะ จะทำอะไรฉันก็เอาเลย!"
พุ่งตัวออกวิ่งไปโดยใส่ความเร็วเต็มแรง แม้ข้อเท้าจะเจ็บเจียนตายแต่ก็ทำได้เพียงกัดฟันกรอดอดทนไว้
หากเขาแพ้ล่ะก็... คงไม่มีหน้าไปวิ่งแข่งกับทุกคนยามพักกลางวันอีกแน่
ตามฉันมาสิ ซากิ!
comment in response to
post
รีบพลิกตัวตั้งหลักก่อนที่อีกฝ่ายนึกจะทำอะไรขึ้นมาอีก เพียงแต่ฉับพลันที่เท้าข้างซ้ายเหยียบพื้นความเจ็บปวดก็แล่นปราดขึ้นมาจนซี้ดเหมือนกัน
แต่เขาถอยตอนนี้ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด
"ขืนฉันนิ่งไป ก็ไม่มีโอกาสสร้างความทรงจำดีๆ กับนายอีกน่ะสิ"
แม้จะเจ็บจนแทบก้าวขาไม่ไหว แต่นี่ไม่ใช่เวลามาพักเสียด้วย
เพราะซากิไม่มีทางหยุดรอเขาแน่นอน
(+)
comment in response to
post
!!
ร่างที่ถูกเหวี่ยงลอยขึ้นก่อนจะหลังฟาดพื้นเข้าอย่างจัง ราวกับบางอย่างที่ตีตื้นขึ้นมาถึงลำคอก่อนกระอักออกมา
"อั่กก—!!!"
กลิ่นของสนิมที่ตีกับกลิ่นของดินชื้น ความเจ็บแปล๊บที่พาให้เขาได้แต่นอน ดวงตาสีดำที่ลืมขึ้นมองเพื่อนรักที่ทำร้ายเขาได้ลงคอ
มองตามไปยังทิศที่ซากิทอดมองไป
ทิศนั้นมัน... ศาลเจ้า?
"นายก็รู้ว่าฉันไม่เคยอยู่นิ่งหรอก"
(+)
comment in response to
post
แม้ในใจจะร้องระงมว่าต้องวิ่งหนี แต่ก็ขอทุ่มสุดตัวอีกสักครั้ง
"ปกติกับผีน่ะสิ!"
ตั้งหลักแล้วกระโดดพุ่งไปหาในระยะใกล้ คว้าคออีกฝ่ายไว้โหนตัวไปเกาะด้านหลังแล้วใช้ทั้งสองแขนล็อคคอซากิงัดขึ้น
รัดแน่น... เหมือนกับที่อีกฝ่ายบีบคอเขาเมื่อครู่นี้ไงล่ะ
"ปกติ? หึ... นี่ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย เ พื่ อ น รั ก"
comment in response to
post
ตัวที่งอลงจากหมัดตรงนั้นพาให้แทบทั้งร่างสั่นสะเทือน ที่เขาตกใจไม่ใช่ความแรง แต่เป็นซากิที่กล้าลงไม้ลงมือกับเขามากขนาดนี้ต่างหาก
"อ่อก—!!"
เผลอปล่อยมือกลายเป็นเปิดทางให้อีกฝ่ายเหยียบซ้ำที่ข้อเท้า เสียงบิดนั่นเรียกความเจ็บปวดจากเขาได้เป็นอย่างดี
"อ๊ากกกกกกก!"
เท้าซ้ายของเขาแทบจะไร้ความรู้สึก จิตใจของเขาที่ยังคงอยู่ที่ซากิ
(+)
comment in response to
post
"คลุ้มคลั่งแล้วนะ ซากิ"
เอ่ยในขณะทอดมองเงาบนพื้นที่โบกสะบัด ใช่ เขาเห็นมันมาโดยตลอด เพียงแค่เลือกที่จะไม่พูดถึงเท่านั้น
"แค่ก... เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่"
comment in response to
post
ด้วยบุคลิกที่สองนี้ที่มักแสดงออกมาในยามคับขัน สูดลมหายใจก่อนพุ่งเข้าใส่คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทเต็มแรงให้ลมลงไปกับพื้นด้วยกันทั้งคู่
คว้าจับแขนอีกฝ่ายทั้งสองข้างเอาไว้ รอยมือช้ำบนคอเริ่มปรากฏเด่นชัดแก่สายตา
"นี่ไง 'ตกไปด้วยกัน' แล้วยังไงต่อ?"
คำพูดที่ดูห้วนกว่าในยามปกติ คนที่เคยเห็นเขาสภาพนี้มีเพียงไม่กี่คนนักหรอก
และหนึ่งในนั้นก็คือนาย ซากิ
(+)
comment in response to
post
พยายามเรียกเพื่อนของเขาอีกครั้งแต่ดูจะไม่เข้าหูเลยแม้แต่น้อย กัดฟันกรอดหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมา
ขอโทษนะ
ปั่ก!!
ตวัดเท้าเตะเข้าที่ข้างใบหน้าอีกฝ่ายอย่างจัง อย่างน้อยก็ให้เสียหลักจนเขาพอหย่อนตัวลงพื้นหาที่ยึดได้
"แค่กก!!"
ไม่สนหรอกว่าบนคอของเขามีรอยมือจากเมื่อครู่หรือเปล่า
(+)
comment in response to
post
"ซากิ— อึ้ก—!!"
เขาเรียกอีกฝ่าย แต่แล้วก็ถูกคว้าคอบีบกลางอากาศทั้งแบบนั้น แว่นตาที่ร่วงลงไป เขาดีดดิ้นทั้งที่เท้าไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ
เพ่งสายตามองคนตรงหน้า สัญญาณอันตรายที่ดังระงมอยู่ภายในหัว พยายามแกะมือซากิออกแต่ก็ไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
หายใจไม่ออก...
"ค่อก— ซา....กิ...."
(+)
comment in response to
post
"บอกแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างนายไง"
แม้ว่าสายตาของเขาจะไม่ได้มองลงไปดูเงาของซากิที่พื้น แต่เพียงแค่บรรยากาศโดยรอบก็ฟ้องเขาได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเพื่อนตรงหน้าเขานั้นดูไม่ปกติเอาเสียเลย
"ซากิ นี่ฉันเอง"
เขาจับไหล่อีกฝ่ายบีบเบาๆ จ้องมองแบบไม่วางตา ความเป็นห่วงเริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
"โทคิ เพื่อนของนายไง"
"ซากิ... นายได้ยินฉันมั้ย?"
comment in response to
post
"ฉันเอง ซากิ"
เขายืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายแล้ว แม้จะไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับซากิ แต่กลับไม่มีความหวาดกลัวอยู่ภายในใจของเขาเลย
เพราะที่ผ่านมา ซากิไม่เคยทำอะไรเขาเลยนี่นา
"หายไป?"
เขาทบทวนคำพูดนั้น ไม่ได้เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อเท่าไหร่หรอก
"หึหึ... ฉันจะหายไปไหนได้"
(+)
comment in response to
post
แม้เสียงภายในหัวจะดังก้องว่าต้องหนี แต่จะให้เขาหนีเพื่อนตัวเองน่ะเหรอ?
จนเขาเดินเข้าไปในระยะใกล้แล้วเอ่ยถามอย่างใจเย็นพลางสังเกตอีกฝ่ายไปด้วย
"ซากิ มาทำอะไรในที่แบบนี้น่ะ"
comment in response to
post
เขาหันมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง หัวใจเต้นรัวพลางสอดสองสายตาหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น
แต่แล้วเขากลับเห็นคนคุ้นเคยเดินออกมาจากความมืด
"ซากิ?"
เขาเอ่ยเรียกพลางเดินเข้าไปหาโดยไม่ได้ระวังตัวแถมยังไม่สนใจความผิดปกติรอบตัวอีกฝ่ายแม้จะมองเห็นด้วยตาคู่นี้ก็ตาม
แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เขากลับยิ่งรู้สึกได้ว่าเพื่อนเขาในตอนนี้ไม่ใช่ยามปกติเอาเสียเลย
(+)
comment in response to
post
ตัวของโทคิที่พึ่งกลับจากทำความสะอาดและไหว้หลุมศพพ่อกับแม่ที่สุสาน เขาเลือกวันถัดจากวันปกตินิดหน่อยเพราะอยากอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบแล้วใช้ความคิดหน้าหลุมศพพวกท่าน
แต่พอรู้ตัวอีกทีก็กลับเป็นยามโพล้เพล้ซะแล้ว
ต้องรีบกลับแล้วสิ
ในระหว่างทางที่เดินนั้น จากเสียงรอบข้างที่ระงมไปด้วยเหล่าแมลงและสายลมปลายฤดูร้อน บัดนี้กลับเงียบลงอย่างน่าประหลาด
"......"
(+)
comment in response to
post
(มาปักคับบ 😊)
comment in response to
post
( อมก. ดีใจที่ชอบนะคะะ 😭❤️💕 เป็นครั้งแรกที่เขียนสตอรี่ยาวประมาณนี้ด้วย ขอบคุณที่สนใจมากๆ เลยนะคะะ )
comment in response to
post
“ยังอยากไปกับผมอยู่รึเปล่า?”
คำถามที่พาให้เงาตรงหน้าเอียงหัวน้อยๆ เขาอ่านอารมณ์ตรงนี้ไม่ออก ได้แต่หัวเราะเบาๆ พลางยืนขึ้นแล้วหันหลังเดินกลับไปยังทางเดิม
และเงานั้นก็สะบัดหางพร้อมวิ่งเหยาะๆ ตามเจ้านายของมันกลับบ้าน
comment in response to
post
มือโอบเงาดำนั้นเอาไว้แม้จะสัมผัสไม่โดน อิงหน้าผากแนบเบาๆ
“ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างผมมาตลอดนะ เมย์”
ผละออกมพลางส่งรอยยิ้มให้
(+)
comment in response to
post
“......” เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางหันไปหาเงาดำนั้น
“เธอคือเจ้าของหลุมศพนี้เหรอ?”
ไม่มีเสียงใดๆ จากเงาดำนั้นเพราะแต่ไหนแต่ไรมาไม่ว่าจะมองเห็นสิ่งเหล่านี้มามากขนาดไหน แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินเสียงเลยแม้แต่นิด
เงาดำนั้นเข้ามาใกล้ เอาตัวซ้อนทับกับหลุมศพนั้นแล้วยื่นมือข้างหนึ่งมาแตะเขา
(+)
comment in response to
post
เพราะเป็นหลุมศพที่ไม่มีป้าย ตัวเขาในตอนเด็กเลยตั้งชื่อเอาไว้ให้และขีดเขียนมันลงบนแผ่นไม้นี้
‘ที่โตเกียวน่ะ! มีอะไรน่าตื่นเต้นเยอะแยะเลยล่ะ~!’
หวนนึกถึงคำพูดหนึ่งของตัวเองเมื่อยามเด็กที่มักจะมาเล่าเรื่องตอนอยู่โตเกียวให้ฟังอยู่บ่อยๆ
‘ ███ อยากไปกับผมมั้ย?’
……
ตัวเขาตอนเด็กที่ไม่ได้รู้ข้อห้ามนี้เลยเอ่ยชวนอะไรก็ไม่รู้กลับไปโตเกียวด้วยกัน
(+)
comment in response to
post
เดินตามเงานั้นไปจนถึงจุดหมาย ตกใจอยู่ไม่น้อยที่เงาดำนั้นนำทางเขามายังหลุมศพหนึ่งที่คุ้นเคยดี
มันคือหลุมศพที่ไร้ป้ายชื่อ ที่เขามักจะนำอาหารและน้ำมาวางให้ตั้งแต่เมื่อเจ็ดถึงแปดปีก่อน
แล้วเงาดำนั้นก็อยู่ข้างๆหลุมศพนั้น…
“......”
ก้าวเดินไปหาพลางย่อตัวลงมองหลุมศพนั้น บนแผ่นไม้ที่เก่าจนมีตะไคร้ขึ้นนั้นยังมีสีเทียนที่เขาขีดเขียนเอาไว้สมัยยังเด็ก
(+)
comment in response to
post
ในตอนที่เขาเจอกับลัคกี้ สุนัขพันธุ์ชิบะที่เขาเคยไปเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ เจ้าเงาดำนี้ก็วิ่งไปมาเหมือน…วิ่งเล่นกับเพื่อน…
เลยคิดว่าทั้งลัคกี้และเงาดำนี้อาจจะเคยรู้จักกันก็ได้
“หืม?”
เขามองเงาดำคุ้นเคยข้างกายที่นำหน้าไปก่อนเสมือนกับรู้ทางดี ความคิดบางอย่างก็ได้ก่อตัวขึ้นภายในใจ
อย่าบอกนะว่า…
(+)
comment in response to
post
เหลือบมองเงาดำข้างตัวที่ดูจะระริกระรี้เป็นพิเศษตั้งแต่มาเหยียบสถานที่แห่งนี้ เป็นเงาดำที่อยู่กับเขามาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น
แม้เขาจะไม่ได้กลัวเงาดำนนี้เท่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็มีบางทีที่เขายังตกใจอยู่บ้างเหมือนกัน
จนเมื่อปีสองปีมานี้มีบางอย่างที่ทำให้เขานึกเอะใจ
ว่าบางทีแล้วเงาดำตนนี้… อาจเคยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์มาก่อน
(+)
comment in response to
post
กลิ่นชื้นของป่าไม้และดินหลังฝนตก เขาก้าวเดินไปตามทางเดินที่มีตะไคร้ขึ้นราวกับไม่มีผู้ใดเข้ามาที่แห่งนี้มานานมากแล้ว
พรืด!
“เหวอ~!”
หัวใจแทบร่วงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อพื้นดันลื่นจนเกือบไถล ดีที่ทรงตัวทันเลยเข่ายังไม่ทันถึงพื้นดีแม้จะใจหายอยู่นิดหน่อยก็เถอะ
“ฮู่ว… เกือบไปแล้วเชียว…”
(+)
comment in response to
post
"....."
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แต่ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังอยู่แล้ว
"ได้ยินเสียงซุบซิบกันน่ะ"
"เกี่ยวกับเงาของนาย"
เบาเสียงลงจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบคุยกันระหว่างสองคน คิดว่าบอกเพียงแค่นี้อีกฝ่ายคงจะเข้าใจ
เขาเลือกบอกประเด็นที่กังวลที่สุดก่อน แล้วหันไปหาซากิ
"ช่วงนี้นายคอยระวังตัวไว้หน่อยน่าจะดีกว่านะ"
comment in response to
post
พอจะหันกลับไปทางต้นเสียงซุบซิบกลับพบว่าไร้วี่แววตัวการเสียแล้ว
"ซากิ..."
น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ หากเป็นคนที่สนิทกันฟังก็จะรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดี
ถึงอย่างนั้นก็ยังพยักหน้าแล้วเดินไปด้วยกันกับซากิ
"เมื่อกี้ได้ยินรึเปล่า?"
เขาเอ่ยถามสั้นๆ
comment in response to
post
ฝีเท้าที่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงจุดๆ หนึ่งที่มีเสียงซุบซิบนั้นแว่วเข้ามาเพราะหัวข้อสนทนานั้นกลับเป็นคนสองคนที่เขาสนิทและเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แม้ในทีแรกจะไม่ได้อะไร แต่พอได้ยินประโยคท้ายๆ แล้วเขากลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"นี่พวกเธอน่ะ—"
ในจังหวะที่กำลังจะหันไปทางเสียงเหล่านั้นก็ถูกทักขึ้นมาเสียก่อน เขาหันไปหาซากิที่เอ่ยทัก
(+)
comment in response to
post
(แว่บมาปักเบาๆ 🤭)