thk-tsukiyo.bsky.social
吉目木•津樹夜 | โยชิเมคิ สึคิโยะ | 24 y. | 166/52 | มิโกะประจำศาลเจ้า | NPC | #THK_Commu TW : รูปกระดูก
https://www.shorturl.asia/jt1CX
50 posts
970 followers
1,046 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to
post
สึคิโยะพยายามดึงกระชากแขนของตัวเองคืนแต่แรงของเธอก็น้อยจนเกินไป ‘กริ๊ง!’ เสียงนึงดังขึ้นตอนที่เธอกระชากอยู่นั้นอีกฝ่ายก็ชะงักเพราะบางสิ่งที่อยู่ที่ข้อมือของเธอคงจะไปสัมผัสเขาเข้า ทำให้แขนเธอหลุดจากพันธนาการก่อนที่เธอจะล้มลงพื้น
หญิงสาวมองไปที่กระพรวนที่ข้อมือเล็กน้อยก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าและคว้ายันต์ที่อยู่ด้านในมาแปะที่อกอีกฝ่าย ก่อนจะแกะกำไลข้างนึงของเธอพยายามผูกให้อีกฝ่าย
comment in response to
post
ตอนนี้เธอได้คำตอบแล้วว่าโอฟุดะใช้ได้ผลหรือไม่ กระเป๋าที่บัดนี้มันได้ร่วงลงพื้นตอนที่แขนของเธอโดนดึงไปพร้อมทั้งแรงที่กระแทกเข้ามายังช่วงท้องของเธอจนกระอักเลือดออกมา
ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา เธอลืมตามองเขากว้างขึ้นกว่าเดิมพร้อมทั้งยกยิ้มขึ้นมาแบบที่ไม่ควรจะเป็นมาก่อน เสียงหัวเราะเย็น ๆ ดังขึ้นมาในลำคอเบา ๆ
“ฮะ…มิโกะนี่…สนุกว่าที่คิดนะคะ…” เสียงเย็น ๆ ปนหัวเราะของเธอดังขึ้นมา
+
comment in response to
post
สึคิโยะค่อย ๆ ที่จะถอยเพื่อตั้งหลักทีละน้อย ตอนนี้ในกระเป๋าเธอมีแค่โอฟุดะไม่กี่ชิ้นกับเชือกเครื่องรางและยันต์ที่ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย 3 ชิ้นอยู่ในกระเป๋าเท่านั้น ไม่ได้พกของอย่างอื่นเอาไว้ปัดเป่าด้วย คงต้องภาวนาให้อย่างใดอย่างนึงได้ผล
“พวกเขางั้นหรอ”เธอถามด้วยพร้อมขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่าย
เรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยของเธอบวกกับความเจ็บปวดที่แขนของเธอคงจะเป็นไปได้ยากที่จะหลบอีกฝ่าย
+
comment in response to
post
สึคิโยะรีบดันตัวให้ลุกขึ้นในทันที เธอรู้ดีว่าตอนนี้กระดูกต้นแขนของเธอคงร้าวหรืออาจจะหักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ย่อมดีกว่าเข้าที่หัวใจเธอแน่นอน
“ตั้งสติไว้ก่อนสิคะ!”
เธอตะโกนออกมาหวังเรียกสติอีกฝ่ายพร้อมหยิบ ‘โอฟุดะ‘ ที่เธอพกไว้ในกระเป๋าออกมาเตรียมที่จะใช้ และภาวนาหวังว่ามันจะได้ผลไม่มากก็น้อย
comment in response to
post
แม้ว่าร่างกายเธอจะขยับทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ถึงกระนั้นด้วยแรงและร่างกายของเธอก็ไม่ได้มากพอที่จะหลบหมัดนั้นได้
แรงจากกำปั้นของชายร่างสูงปะทะเข้าที่ต้นแขนของเธอ ทำให้เธอกระเด็นออกไปประมาณนึง
“อึก…”
ร่างของเธอสั่นกับความเจ็บที่แล่นอยู่ทั่วแขนของเธอและจากแรงที่กระแทกเข้ากับพื้น
โชคยังดีที่มือของเธอยังคงกำกระเป๋าเอาไว้แน่นทำให้ของด้านในไม่ได้หลุดกระเด็นไปไหน
+
comment in response to
post
แม้ว่าเธอจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดแต่ก็ตาม แต่เธอก็รับรู้ถึงความอันตรายของคนตรงหน้าหากไม่รีบทำอะไรซักอย่าง
‘คนของพวกนั้น?’ มือที่กำลังค้นหยิบอะไรบางอย่างหยุดชะงักพร้อมกับคำที่ยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยออกมาถามอีกฝ่าย
บุคคลที่ขณะนี้ควรอยู่ห่างจากเธอระยะนึง บัดนี้ระยะนั้นได้หายไปมากแล้ว
จิตสังหารของเขาทำให้ร่างกายของเธอขยับเบี่ยงหลบไปด้านข้างในทันทีก่อนที่เธอจะคิดอะไรด้วยซ้ำ
+
comment in response to
post
หญิงสาวกวาดสายตาไปมองรอบ ๆ จนไปสะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่ง เธอกำลังจะเมินเหมือนอย่างเช่นทุกทีแต่เมื่อเห็นว่าเป็นชาวบ้านเลยมิได้ทำเช่นนั้น
“มีอะไรรึเปล่าค—”
เสียงของเธอหยุดชะงักลงเมื่อเห็นถึงความผิดปกติของคนตรงหน้าและบรรยากาศที่หนักอึ้งผิดปกติ สึคิโยะรวบรวมสติทันที แม้ขาของเธอหนักเกินกว่าที่จะหนีไปไหน มือเธอล้วงไปในกระเป๋าคล้ายหาอะไรอยู่
“ทางข้างหน้านี้มีเพียงศาลเจ้านะคะ“
comment in response to
post
หลังจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในการจุดไฟ ในหัวของมิโกะสาวก็ยังคงคิดไม่ตกขณะที่ขาของเธอกำลังก้าวเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อกลับไปยังที่พักหยุดลง เสียงจั๊กจั่นที่ดังเสียจนน่ารำคาญ ดังเสียจนกลบเสียงของกระพรวนที่อยู่บนตัวเธอไปจนหมด ดูแล้วเรื่องน่ารำคาญใจคงจะยังไม่หมดสินะ
พลันเมื่อเสียงที่น่ารำคาญหายไป และบรรยากาศที่เย็นจนชวนให้ขนลุก ‘มีบางอย่างผิดปกติ’ นั่นคือสิ่งที่เธอสรุปออกมาได้
comment in response to
post
(ปักค่ะ)
comment in response to
post
ความสงบสุขครึกครื้นของงานเทศกาลที่ไม่รู้จะอยู่อีกนานแค่ไหน แม้เธอจะไม่ได้ชื่นชอบเสียงดังนักก็ตามที
“ก็ระวังร่มจะไปเกี่ยวอะไรเข้านะคะ”
เธอพูดหยอกคนใกล้ ๆ ระหว่างมองหาที่จะไปแขวนกระดาษ
สายตาที่กวาดมองไปจนทั่วจนไปสะดุดเข้ากับจุดที่คนค่อนข้างเบาบางและสงบเงียบกว่าจุดอื่น
“นี่”
เธอชี้นิ้วไปตรงจุดนั้นก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายเชิงถามอีกฝ่ายเป็นนัย ๆ
comment in response to
post
นิ้วเรียวจรดปลายปากกาลงบนเอกสาร พร้อมทั้งเซ็นตามที่อีกฝ่ายบอกโดยไม่พูดอะไร แล้วจึงรับพัสดุจากอีกฝ่ายมาถือเอาไว้
“ก็…”
“ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษอะไรนักหรอกค่ะ”
สึคิโยะเดินเข้าไปด้านในศาลเจ้าเพื่อเอาพัสดุเก็บครู่นึงก่อนจะเดินกลับออกมา แล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“ฟ้าเริ่มมืดแล้วนะคะ”
comment in response to
post
ท่าทางของอีกฝ่ายไม่ได้ต่างจากที่เจ้าตัวนึกเอาไว้นัก แทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกับที่คาดการเอาไว้อยู่แล้วก็ว่าได้
หลังเดินมาซักพักก็ถึงจุดที่มีต้นไผ่มากมายวางตระเตรียมเอาไว้แล้ว ถือว่าดีที่ครั้งนี้เดินมาถึงที่หมายโดยไม่ได้หลงทางหรือไม่ออกที่อื่น
“คนยังเยอะเหมือนเดิมเลยนะคะเนี่ย”
เธอพูดพร้อมกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาว่าพอมีจุดไหนที่มีคนน้อยบ้าง
comment in response to
post
“อันนี้เป็นโอมาโมริของศาลเจ้าค่ะ”
ดูจากอาการของอีกฝ่ายตอนเดินทางมายังศาลเจ้าแล้ว คงต้องพกเครื่องรางที่เอาไว้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายเอาไว้คงเป็นเรื่องที่ดีกว่า
“คุณคงไม่ใช่คนที่นี่สินะคะ”
comment in response to
post
เธอยืนมองอีกฝ่ายโทรศัพท์อยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร นออีกฝ่ายสนทนาให้เสร็จสิ้นก่อน
ทางเธอเองก็ลืมเรื่องที่คนจากศาลเจ้าอื่นจะเดินทางมาเสียสนิท คงเพราะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักด้วย
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ”
“เดี๋ยวฉันนำไปเก็บรักษาเอาไว้ด้านในให้ก่อนก็ได้ค่ะ”
“ต้องเซ็นต์อะไรรึเปล่าคะ?”
เจ้าตัวว่าแล้วก็ยื่นมือรอรับพัสดุนั้น พร้อมกับยื่นของที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเมื่อครู่ให้อีกฝ่าย
+
comment in response to
post
สึคิโยะมองพัสดุในมือของอีกฝ่าย จะให้ตามหาตัวคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ก็คงจะเป็นไปได้ยาก
“ลองติดต่อศาลเจ้าทางนั้นดูมั้ยล่ะคะ”
“ถ้าทางนั้นใส่ช่องทางติดต่อเอาไว้เรียบร้อยก็ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ”
เธอพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเหมือนของอะไรอยู่
“ยิ่งเวลานี้แล้ว พวกมิโกะพาร์ทไทม์ก็ตงจะกลับบ้านกันแล้ว”
comment in response to
post
ยังไงซะโดยปกติแล้วเธอก็ไม่ได้เชื่อรอยยิ้มนั่นอยู่แล้ว ยิ่งกับคนที่เดินตามหลังตนมาด้วยแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ยังคงเดินช้า ๆ เพื่อไปยังเทศกาลต่อไป
“ก็เล็กน้อยนั่นแหละค่ะ”
“พูดเหมือนคุณไม่คาดหวังให้เกิดอะไรขึ้นเลยนะคะ”
สึคิโยะหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อย ถึงจะพอเดาได้อยู่แล้วว่สอีกฝ่ายจะแสดงท่าทางยังไงก็ตาม
comment in response to
post
คำตอบที่ได้รับมาก็ไม่ค่อยต่างจากที่คาดเอาไว้ซักเท่าไหร่นัก
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”
ทันทีที่เธอเริ่มขยับตัวแล้วก้าวเดินเสียงของกระพรวนที่ถูกผูกเอาไว้บนเสื้อผ้าและลำตัวก็ดังก้องทั่วบริเวณ
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“มันก็น่าจะตื่นเต้นขึ้นมาได้บ้างนะคะ”
เปลือกตาที่ขยับเปิดกว้างขึ้นมาเล็กน้อย เผยให้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ครู่นึงก่อนจะเปลี่ยนกลับไปสู่สีหน้าเรียบนิ่งอย่างเคย
comment in response to
post
สองเท้าค่อย ๆ ย่างก้าวเข้ามาอย่างใจเย็นจนตอนนี้เข้ามาถึงภายในบริเวณหน้าศาลเจ้าแล้ว
สึคิโยะก้มหน้าครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะหันกลับไปหาอีกคน
“งั้นมันก็หน้าแปลกนะคะ เพราะที่นี่ไม่น่าจะมีมิโกะชื่อนี้นะคะ”
“จะเป็นไปได้รึเปล่าที่ทางนั้นจะกรอกชื่อผิดน่ะค่ะ”
comment in response to
post
สายตาพลันเปลี่ยนจากแสงสว่างยามค่ำคืนไปยังบุคคลที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย
“แสดงว่ายังสินะคะ จะไปพร้อมกันมั้ยล่ะคะ“
เพราะมีการจัดงาน สถานที่ตอนนี้เลยดูแปลกตาไปจากเดิมอยู่บ้าง อย่างน้อยถ้ามีคนไปด้วยคงได้ลดโอกาสที่จะหลงลงไปได้บ้าง
”ก็นั่นน่ะสินะ“
คงจะปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร
comment in response to
post
เห็นท่าทางอารมณ์ดีของอีกฝ่ายแล้ว เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นเรื่องดีแน่รึเปล่า แต่เธอก็เลือกเก็บเอาไว้ในใจไม่แสดงสีหน้าออกไป
“อย่างนั้นสินะคะ ไม่สนใจไปขอพรบ้างหรอคะ”
สายเธอของเธอมองไปสะดุดกับร่มที่อีกฝ่ายกางอยู่
“แปลกจังนะ วันนี้ไม่ได้มีพยากรณ์ว่าฝนจะตกนี่นา ฟ้าเปิดขนาดนี้”
เธอกล่าวก่อนจะที่จะเงยหน้าไปมองฟ้าโปร่ง หรือพระจันทร์ที่เห็นอยู่ตรงนั้นจะเป็นของปลอมกัน
comment in response to
post
บรรยากาศที่ดูแปลกไป หากเป็นในเวลาปกติเธอคงเลือกที่จะไม่สนใจและปล่อยผ่านไป แต่ดูแล้วบุคคลที่ตนอยู่ด้วยในตอนนี้ดูระแวงไม่ใช่น้อย บางทีการชวนคุยอาจจะทำให้เค้าสบายใจขึ้นได้ หวังว่านะ
“พัสดุเนี่ย ระบุไว้แค่นั้นเลยหรอคะ”
“มีรายละเอียดเพิ่มมั้ยคะ”
ถึงเธอจะจำชื่อคนไม่ค่อยได้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะคุ้นหูบ้าง มีมิโกะชื่อนั้นอยู่ด้วยหรอ มามิโระ? หรืออะไรซักอย่าง
comment in response to
post
เสียงที่คุ้นหูเอ่ยทักขึ้นมาทำให้เธอชะงักอยู่ครู่นึงก่อนจะหันไปหาเจ้าของเสียง ก่อนที่จะหันเช็ครอบ ๆ ข้างให้ดีเสียก่อนว่าหมายถึงตนเองหรือไม่
“ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ”
“ไม่นึกเหมือนกันนะคะว่าคุณจะมาด้วยน่ะค่ะ”
เสียงนุ่มเย็นกล่าวเชื่องช้าอย่างไม่เร่งรีบ
“แล้วคุณมาทำอะไรกันคะ”
comment in response to
post
(แวะมาปักไว้ก่อนนะคะ)
comment in response to
post
+
“เชิญทางนี้ก่อนสิคะ”
เสียงเย็นเนิบกล่าวขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะผายมือไปทางบันไดหินเป็นการเชื้อเชิญอีกฝ่าย
comment in response to
post
ตอนแรกเธอจะมาช่วยบรรเทาความกลัวให้อีกฝ่าย กลับกลายเป็นว่าเป็นเธอเองที่เพิ่มความกลัวให้เขาซะมากกว่า
พัสดุมาส่ง สึคิโยะกำลังนึกว่าจะมีใครที่เลือกสั่งพัสดุมาลงที่ศาลเจ้ากัน เพราะถึงอีกฝ่ายจะบอกชื่อมาแล้วก็ตามเธอก็คงไม่มีทางนึกออกแน่นอน แต่ก่อนสิ่งอื่นสิ่งใดคงไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะให้จะให้ผู้ที่มาเยือนยืนรอแบบนี้
comment in response to
post
เสียงเกตะกระทบพื้นหินแว่วกระพรวนดังขึ้นมาจากปลายบันไดหิน พร้อมกับหญิงสาวคนนึงที่เดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะโค้งตัวทักทายด้วยน้ำเสียงและสีหน้านิ่ง
“สายัณห์สวัสดิ์ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ“
แม้ดูจากของในมือก็คงพอที่จะคาดเดาได้ว่าคนตรงหน้ามีวัตถุประสงค์ใดก็ตาม
comment in response to
post
(ขออนุญาตมาปักไว้ก่อนนะคะ🥺)