patriciade-esra.bsky.social
แพทริเซีย เดอ อามัวร์เทอร่า || Patricia de Amourterra || Y.4 || 19 #ESRA_COMMU
(+ย้อนหลังได้ตลอด +ทุกได้โพสต์!) --(ผปค.คึกวาดรูปมาก)
Doc: https://bit.ly/3CbRUAF
972 posts
309 followers
348 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to
post
"ฉันถนัดเรื่องทำมงกุฎดอกไม้อยู่แล้วด้วย คงจะไม่เกินความสามารถเท่าไหร่"
เธอหันไปกล่าวพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย
"แต่ฉันไม่ค่อยถนัดเรื่องเวทย์มนต์เท่าไหร่...ส่วนนั้นอาจจะต้องยกให้เป็นหน้าที่คุณนะคะ วิสต์"
แต่ก็ใช่ว่าจะแบ่งหน้าที่ใครหน้าที่มันเสียทีเดียว เธอเองก็ยังคงให้อีกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการเลือกดอกไม้อยู่ดี
"ถ้าเป็นแบบนั้นสนใจรึเปล่าคะ?"
comment in response to
post
"ไม่หรอก" แพทริเซียส่ายหัวเบาๆ
"คุณนี่เก่งเรื่องการใช้ความคิดสร้างสรรค์จริงๆนั่นแหละ"
ถึงจะไม่รู้แน่ชัดว่ามีจุดประสงค์อื่นหรือไม่ แต่ผลลัพธ์ของสิ่งนั้นก็ออกมาดูดีเลยไม่ใช่รึไง?
ทำเพื่อคนอื่นและส่วนรวม...เรียกแบบนั้นก็อาจจะได้
"นั่นถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ"
+
comment in response to
post
ถึงจะกล่าวว่ารุ่นพี่ก็จริง แต่อายุก็ห่างกันเพียงไม่กี่ปี
"ฉันไม่มีแพลนที่ว่าจะไปต่อเลยค่ะ"
"คิดแค่ว่าอยากลองทำนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ"
เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมายนัก เธอจึงไม่ได้วางแผนอะไรสักอย่าง
จะเรียกว่าทำตัวล่องลอยแล้วให้โชคชะตานำพาไปก็คงใช่
แพทริเซียยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าคาง ทำท่าทางครุ่นคิด
"วินซ์พอจะมีอะไรแนะนำไหม?"
หากปล่อยให้เธอคิดทั้งวันคงคิดไม่ออกจริงๆนั่นแหละ
comment in response to
post
"...แหะ ฉัน...แค่ไม่อยากให้เสียโอกาส ถ้ามันยังอยู่ตรงนั้นน่ะค่ะ" เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน
แต่หากปล่อยไป...คงเสียดายไม่น้อยเลย
มือยังคงลองจัดดอกไม้บนมงกุฎเพิ่มสักหน่อย
"แม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็...ขอลองหน่อยนะคะ" ว่าแล้วเธอก็ลองเอามงกุฎดอกไม้นี้สวมลงบนศีรษะของรุ่นน้องตรงหน้า
"หืม..."
"เพราะมีความรักรึเปล่าน้า...แต่น่ารักมากเลยค่ะ"
comment in response to
post
คู่หมั้นขององค์ชายรามิริส (ซับคาร์)
comment in response to
post
เธอยิ้ม
"แต่ว่านะคะวินซ์ ก่อนอื่น..."
"หากจะให้ฉันเรียกคุณแค่ชื่อ คุณเองก็ต้องยอมเรียกฉันแค่ชื่อด้วยเช่นกัน"
นั่นราวกับคำประกาศิต ไม่เหมือนกับการเป็นประโยคบอกเล่าทั่วไป
"ไม่อย่างนั้นฉันจะกลับไปเรียกว่า'คุณวินเซนต์' ด้วย"
ลึกๆแล้วตัวเธอก็ยังคงมีความหัวนั้นอยู่ดี
ให้เรียกแีกฝ่ายแค่ชื่อ แต่เรียกเธอด้วยคำว่า'คุณ' นั่นออกจะไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่เลยนะ
comment in response to
post
แม้แววตาสีม่วงนั้นจะหมองลงเพียงแค่ครู่เดียว...เธอก็สังเกตุเห็นทัน
แต่ก็เลือกที่จะไม่ทักอะไรออกไป
"นั่นสินะคะ....ไม่ว่าโรคแบบใดก็คงไม่มีใครอยากให้เกิด"
"ถึงจะฟังดูประหลาด แต่ฉันก็หวังว่าเวทย์มนต์ที่คุณกล่าวถึงจะสามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ในสักวัน"
"โรคที่รักษาไม่ได้..."
แพทริเซียจ้องมองเข้าไปยังตาของอีกฝ่าย
"ก็จะต้องรักษาได้"
+
comment in response to
post
"สนใจอยากที่จะเป็นหมอหรือเภสัชกรงั้นหรอคะ?"
หากพูดถึงยารักษาก็คงนึกถึงได้แค่ไม่กี่อย่าง
หากไม่ใช่รักษาผู้อื่น...ก็คงอยากรักษาตัวเอง
เธอเลือกที่จะไม่พูดสิ่งที่คิดออกไปทั้งหมดเพราะเกรงว่าจะลาบละล่วงอีกฝ่าย
"อา...ถ้าไม่สะดวกตอบ ก็ไม่เป็นไรนะคะ"
comment in response to
post
"ยารักษาโรคงั้นหรอ?" เธอเอ่ยพึมพัมออกมาเบาๆ
"เอาแบบนั้นงั้นหรอคะ ได้สิวินซ์"
"ถ้าแบบนั้นเรียกฉันแค่แพทริเซียก็ได้ค่ะ" ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ถือสาอะไร เธอเองก็ยินดีที่จะให้อีกฝ่ายเรียกเช่นกัน
"อา...หรือถ้าไม่ถนัดเรียกชื่อยาวๆจะเรียกแค่พยางค์ไหนพยางค์นึงก็ได้ค่ะ"
จากนั้นจึงได้กลับมาสนใจที่ประเด็นก่อนหน้าที่อีกฝ่ายกล่าว
+
comment in response to
post
ใบหูขึ้นสีเล็กน้อยเพราะตัวเธอเองคิดว่าคำตอบนี้ออกจะน่าอาย
หากกล่าวถึงชนชั้นสูงคนอื่นคงเอาเวทย์มนต์ไปทำอะไรที่ยิ่งใหญ่และมีอุดมการณ์กว่านี้
"คงจะไม่ได้คิดจะเป็นฝ่ายถามฉันอยู่คนเดียวหรอกใช่มั้ยคะ?"
แพทริเซียหันไปหาอีกฝ่าย ก่อนจะส่งเสียงกระแอมออกมาทีหนึ่ง
"เอาล่ะค่ะคุณวินเซนต์ แล้วคุณล่ะ อยากจะใช้ทำอะไร?"
แววตาแฝงไปด้วยความคาดหวัง
comment in response to
post
เดิมทีแล้วสิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่อย่างแพร่หลายอยู่แล้วด้วย จึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะตื่นเต้น
แม้แต่ราชวงศ์เองก็ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน
"เอ๋? ถ้าหากมีงั้นหรอคะ?"
แพทริเซียเอียงหัวเล็กน้อย นั่นมันคำถามที่น่าสนใจมากเลยไม่ใช่หรอ
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆเอ่ยออกมาเบาๆ
"...คงอยากจะ ทำให้ต้นไม้โตเร็วๆได้ล่ะมั้งคะ"
ไม่มีสิ่งใดในหัวนอกจากสิ่งนี้
+
comment in response to
post
และการตัดผมครั้งนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เธอเกิดหัวขบถขึ้นมา
"พอได้ตัดมันออกไปแล้ว...ก็รู้สึกเหมือนกับว่าอะไรหลายๆอย่างมันเบาลง"
"แต่มานึกดูก็น่าเสียดายเหมือนกันนะคะ ถ้าเกิดผมยาวคงได้เล่นทำผมการชาร์ลีนบ่อยๆแน่เลย"
แพทริเซียกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ
เธอไม่ได้เกลียดเส้นผมของตนเองเลยแม้แต่น้อย
เพียงแค่ไม่ชอบ ที่มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่ง
comment in response to
post
'หากทำเช่นนี้ เหล่าแขกผู้มาเยือน...'
'ถ้าหากว่า ถ้าหาก...'
สิ่งที่ทุกคนในวังใส่ใจไม่ใช่ตัวเธอ
แต่เป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่จะแสดงออกมานั้นต่างหาก
"พี่ก็คิดเช่นนั้นนะคะ"
"แต่ในทางเดียวกัน เพราะแบบนั้นพี่ถึงได้ยอมกล้าตัดมัน"
ความกดดันมากมายที่ถูกเร่งจนถึงขีดสุด สุดท้ายแล้วเมื่อไม่มีหนทางระบายออก
เส้นผมที่ถูกมองว่า'สำคัญ'จึงได้ถูกกำจัดทิ้งด้วยมือเธอเอง
+
comment in response to
post
เธอค่อยๆหันใบหน้าที่นังประดับด้วยรอยยิ้มไปหาชาร์ลีน
"กรณีของพี่ก็คงคล้ายกัน"
ประเด็นเรื่องความเคร่งครัดของราชสำนักนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจเล่าออกมาได้โดยตรง
"เส้นผมของสตรีเป็นดั่งสมบัติล้ำค่า เพราะเช่นนั้นจึงควรดูแลให้ดี"
เหล่าสาวใช้ล้วนมักแต่สาละวนอยู่แต่กับเส้นผมของเธอ กรรมพันธุ์ที่ผสมผสานกันได้อย่าลงตัวระหว่างผู้ให้กำเนิดทั้งสอง
'หากทำผมทรงนี้พระคู่หมั้นจะต้อง...'
+
comment in response to
post
"ขอบคุณนะคะ..."
แพทริเซียยิ้มรับให้แก่คำชมนั้น เธอเองก็ชอบไม่น้อยในเวลาที่ตนไว้ผมยาว
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย ทิ้งให้ความเงียบปกคลุมไปช่วงหนึ่ง
ไม่ใช่เพราะมันสะกิดแผลใจเธอแต่อย่างใด แต่กำลังกลั่นกรองคำพูดออกมาว่าควรเล่าอย่างไรดี
"ชาร์ลีนเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับปลาดาวรึเปล่าคะ?"
"พวกมันจะยอมสลัดแขนของตนทิ้ง เมื่อรู้สึกว่าถูกรุกราน"
+
comment in response to
post
“เป็นผู้ชายก็อย่าหยุดสวย” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตบไปที่อกเด็กหนุ่ม โดยไม่ได้พูดอะไร
มีเพียงสีหน้ายิ้มเลศนัยเท่านั้นที่มอบให้เขา
comment in response to
post
"อีกอย่างฉันมองว่าออกจะเพลิดเพลินเสียด้วยซ้ำ"
แพทริเซียกล่าวออกไปทั้งรอยยิ้ม เพื่อเรียกความมั่นใจให้แก่อีกฝ่าย
"เป็นฉันมากกว่าที่รบกวน"
"แต่ฉันชอบท่าทีนั้นของคุณนะคะ"
"มันแสดงให้เห็นเลยว่าคุณมีความสนใจมันมากแค่ไหน"
ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะเรียนรู้เพียงไม่กี่ครั้งแล้วสามารถทำออกมาได้สมบูรณ์แบบเช่นนี้
เรียกได้ว่ามีพรสวรรค์
comment in response to
post
"อย่างนั้นหรอ..."
จากตอนแรกที่ใจตกไปอยู่ถึงตาตุ่ม คราวนี้เหมือนว่าเธอจะมีแรงใจอีกครั้ง เพราะคำพูดของวินเซนต์
เธอยังคงจ้องมองขณะที่อีกฝ่ายสาธิตวิธีการให้ดู พยักหน้าตามเรื่อยๆราวกับลูกศิษย์ที่กำลังตั้งใจหาความรู้
พูดมากเกินไปงั้นหรอ...?
เห็นท่าที่ไม่มั่นใจของเขาแล้วก็ทำเอาเธออดขมวดคิ้วไม่ได้
"ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย"
+
comment in response to
post
ดวงตาจ้องไปยังทิวทัศน์ที่ต่ำกว่า ภาพของแสงสีจากมุมที่สูงกว่า มันช่างน่าอภิรมย์ใจอย่างบอกไม่ถูก
วิลเฮลมิน่าไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไปในทันที หญิงสาวหันกลับไปมองเขาด้วยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา
"ไม่หรอก" เธอโกหกโดยที่ไม่ได้พยายามจะปิดบัง ไม่นานก็ได้ละสายตากลับไปมองภาพตรงหน้าแทน สายลมพัดผ่าน กลิ่นดอกไม้ที่ผลิบานในยามค่ำโชยตามกระแส +
comment in response to
post
(มาภาวนาให้พิ่แพทมีดวงได้เจอผีร้ายกันค่ะแบบนี้ เดี๋ยวพี่จะเล่นคืนให้🤲🔥🔥)
comment in response to
post
(อ อย่านะ5555555555555)
comment in response to
post
(เวรย่อมระงับด้วยการจองเวรค่ะ🥺🥺🥺)
comment in response to
post
(อ๋ย แต่ยังไงนางฟ้าตัวจริงก็คือศจ.นะคะ🥺💗✨)
comment in response to
post
"ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตนะคะ"
แพทริเซียค่อยๆลองทำตามวิธีที่เวิร์คช็อปสอนดู
ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจไม่น้อย ปีกแฟรี่ของอีกฝ่ายดูเปล่งประกายระยิบระยับ
แม้จะไม่งดงามเท่าตอนที่วินเซนต์ทำให้ก็ตาม
"เอ...ดูเหมือนว่าปีกจะใหญ่ขึ้นนิดหน่อยรึเปล่าคะ?"
เธอกล่าวออกไปอย่างไม่มั่นใจ
"ฉันเผลอทำขั้นตอนไหนผิดไปรึเปล่านะ..."
comment in response to
post
"นั่นสินะคะ ตัวเล็กๆมีปีกแบบนี้เป็นอะไรที่น่ารักเสียจริง"
พูดไปก็แอบกัดฟันในใจไป สำหรับเธอแล้วพัฟบอลประจำตัวเธอห่างไกลจากคำนั้นเหลือเกิน
"ทำเอาฉันอยากรู้เสียแล้วว่าพัฟบอลของฉันเองจะมีรูปลักษณ์แบบไหน"
แพทริเซียนั่งเท้าคางกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
ส่วนพัฟบอลที่บินมาถึงแล้วทำเพียงแค่กอดขวดแชมพูลอยอยู่แบบนั้น
มองเจ้านายของตนอย่างสงสัย ว่าเธอกำลังเล่นอะไรอยู่?
comment in response to
post
"แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นหนึ่งในบทเพลงที่ฉันชอบ"
แพทริเซียค่อยๆลุกตัวขึ้น จากนั้นจึงได้ผายมือไปทางเจเรเมีย
"ยิ่งปล่อยให้ดึกไปกว่านี้เดี๋ยวจะทำคุณเผลอหลับไปอีกรอบเอา"
เธอกล่าวออกไปอย่างติดตลก
"ไปเก็บคริสตัลกันเถอะค่ะ"
"ไว้เดินไปพูดคุยไปด้วยก็ยังไม่สาย"
มือเรียวยังคงค้างอยู่เช่นนั้น รอให้อีกฝ่ายหยิบยื่นมือมา เพื่อประคองตัวลุกขึ้น
comment in response to
post
"เป็นบทเพลงเกี่ยวกับคนผู้หนึ่ง...
เขาทั้งรัก ภักดี เทิดทูนอีกฝ่ายจนสุดหัวใจ
ไม่ว่าสิ่งใดหากเพื่อผู้นั้นเขายินดีทำทุกอย่าง แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจก็ไม่เป็นไร
ขอเพียงแค่ท่านผู้นั้นมีความสุขก็เพียงพอ
และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี กี่หมื่น กี่ชาติพบ
ความรักที่เขามีให้จะไม่มีวันจางหาย"
นั่นคือสิ่งที่เธอได้รับฟังมาจากพระสนม
"ฉันเลือกเล่นเพลงนี้เพราะเห็นว่าบรรยากาศเข้ากับที่นี่ดี"
+
comment in response to
post
หญิงสาวเอียงคออย่างสงสัย ปีกลู่ลงเล็กน้อย
"อยากรู้หรอคะ?"
เป็นคนที่มีความกล้าเสียจริง มาถามความหมายของเพลงกับผู้บรรเลงเสียด้วย
"ถ้าให้ว่ากันตามตรงฉันไม่ได้รู้จักเพลงนี้ตั้งแต่แรกหรอก"
"คนรู้จักเล่นให้ฟังน่ะค่ะ"
คนผู้นั้นคือพระสนมที่เธอมักแอบไปเล่นด้วยตั้งแต่เด็ก
เพราะเจ้าหล่อนต้องจากบ้านเกิดมาไกลแสนไกลจึงไม่แปลกที่จะเกิดความเหงาขึ้นมาบ้าง
+
comment in response to
post
"นั่นสินะคะ..."
อีกเดี๋ยวยังคงมีวิชาภาคบ่ายต่ออีก หากใช้เวลานานเกินไปแองเจล่าอาจจะไม่ได้พักผ่อนก็ได้
"คุณแองเจล่าเองก็ต้องพักผ่อนด้วย"
"ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ไว้เจอกันใหม่นะคะ"
แพทริเซียกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่หญิงสาวตรงหน้า โค้งคำนับส่งให้แก่อีกฝ่ายตามมารยาทก่อนจะเดินจากไป
(ฝั่งเราขอจบไว้ที่ตรงนี้ค่ะ🥺 ขอบคุณมากๆเลยนะคะ น้องแองเจล่าน่ารักมากเลย😭🩷✨✨)
comment in response to
post
(อยากทุบอยู่ค่ะ แต่เกรงว่าถ้าผีมาหาจริง ผีอาจจะได้กลัวพี่แพทก่อน(...))
comment in response to
post
"อืม"
เสียงในคอดังขึ้นตอบรับคำของแพทริเซีย เธอจะไม่คิดมากตามที่อีกฝ่ายว่า
"เธออดทนกับมันเสมอเลย..."
อนาสตาเซียเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันเล็กจ้อย เชื้อพระวงศ์ประเทศอื่นมักทำให้เธอสะท้อนใจ ทว่ากลับเทียบกับแพทริเซียไม่ได้เลย
เจ็บปวด..
"ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บอีก ไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ตาม ห้ามเจ็บอีก"
อนาสตาเซียบอกคนบนม้านั่งอย่างจริงจัง
comment in response to
post
ความอุ่นที่ถูกส่งผ่านเข้ามานั้น...เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้เธอรู้สึกโล่งอกขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
พี่เจเรเมียที่เธอรู้จัก...พี่เจเรเมียที่แสนใจดีและอ่อนโยน
เขาอยู่ตรงนี้
มือทั้งสองนั้นกำเสื้อของเขาไว้ กดน้ำหนักลงราวกับต้องการให้แน่ใจว่าเขาอยู่ตรงนี้จริงๆ
เสมือนว่าเธอนั้นพยายามกลั้นเก็บอารมณ์ไว้อยู่นาน
พอได้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยให้ตนรู้สึกอุ่นใจแล้ว
น้ำตาและความรู้สึกที่กักเก็บไว้ก็ท่วมท้นออกมา
comment in response to
post
แม้สัมผัสนั้นจะเย็นเฉียบราวกับหิมะในฤดูหนาวแต่ดูท่าวิสต์จะไม่ได้รังเกียจเลยแม้แต่น้อย กลับกุมไว้ให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ท่านพูดแล้วนะ” เมื่ออารมณ์ดีขึ้นมาถึงเอ่ยคำหยอกกลับบ้าง
บางทีเขาอาจต้องการความอบอุ่นเช่นนี้เป็นครั้งคราวเพื่ออยู่ต่อไปเพียงเท่านั้นก็พอแล้ว
(ลงใหม่เพราะลืมแว่นคับ🗿)
comment in response to
post
เธอเงยหน้าขึ้น แววตาเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
"ได้อย่างนั้นหรอคะ? เป็นความคิดที่ดีเลยนี่"
ถ้าหากปลอมตัวออกไปคงไม่ถูกจับได้แน่
"แต่ว่าฉันไม่เคยเข้าเมืองนะคะ ถ้าไปเองมีหวังหลงทางแน่"
ความคิดดีเยี่ยม แต่ลองนึกสภาพเธอออกไปข้างนอกด้วยตัวคนเดียว แค่นั้นก็ดูน่าเป็นห่วงแล้ว
เธอจะต้องเผลอไปทำอะไรแปลกๆใส่คนข้างนอกแน่
comment in response to
post
เขาที่ว่าคือราชสำนัก
"เขาแค่เคร่งกับฉันเป็นพิเศษน่ะค่ะ"
ที่อาณาจักรของเธอราชสำนักมักจะมีหน้าที่คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับราชวงศ์ รวมไปถึงกฎเกณฑ์ต่างๆก็ด้วย
จะว่าเคร่งครัดก็ใช่ แต่บางทีอาจเป็นเพราะกรณีของเธอพิเศษกว่าคนอื่นในราชวงศ์จึงได้ถูกดูแลเช่นนี้
เธอแพทริเซียเลือกที่จะไม่ขยายความเพิ่มเติม เพราะเกรงว่าภาพลักษณ์อาจจะดูเสื่อมเสีย
+
comment in response to
post
เธอยกเจ้าดอกกุหลาบที่ตนพึ่งเสนอไปขึ้นมา เทียบกับสีเรือนผมของอีกคน
แม้จะเข้มกว่าหน่อยก็ตาม...
"ถ้าหากมีตัวแทนของเราทั้งคู่อยู่ด้วยกันในมงกุฎดอกไม้นี้คงจะเป็นอะไรที่ดีแน่"
ก่อนจะค่อยๆวางดอกไม้ลงอย่างเบามือ
"หรือว่าจะให้ของชาร์ลีนเป็นมงกุฎลิลลี่
แล้วของพี่เป็นมงกุฎจากกุหลาบที่ชาร์ลีนเลือกก็น่าสนใจนะคะ"
เธอลองเสนอทางเลือกอื่นดูเล่นๆ
แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ตามใจชาร์ลีนอยู่แล้ว
comment in response to
post
"นั่นเป็นเทศกาลที่ดูน่ารักดีนะคะ"
การนำดอกไม้ที่อีกฝ่ายมอบให้มาทำเป็นมงกุฎนี่...ดูวิเศษมาก
แพทริเซียหรี่ตาลงน้อยๆ ในขณะที่รับฟังคำพูดของชาร์ลีน เธอมีความคิดมากมายอยู่ในหัว
"อืม..."
"พี่เองก็คิดคล้ายกับชาร์ลีน"
เธอยังคงยิ้มน้อยๆให้แก่เด็กสาวตรงหน้า
"นานๆทีจะได้ทำสิ่งที่ได้เป็นความทรงจำของเราทั้งคู่ทั้งที พี่ก็เลยอยากให้ได้มีส่วนร่วมด้วย"
+