thkfumio.bsky.social
永治 史桜 | Eiji Fumio | Y.3 | 3-D
Part time Miko
Acc for #THK_Commu | co/role/เวิ่น dm24/7 |
弟さん : @thkfujiki.bsky.social
—よろしく。🌸
doc : https://urlkub.co/e0fDYX
113 posts
491 followers
541 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to
post
“อ่ะ.. อื้ม”
“ดีใจจัง”
ฟูมิโอะอมยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้าตามความเห็นที่อีกคนว่า
“อื้ม ได้สิคะ ยากิโซบะก็อร่อยนะคะ”
“ยิ่งถ้ามีขนมปังด้วยจะน่าทานขึ้นไปอีกล่ะค่ะ”
เธอพูดพร้อมกับเดินต่อไปจนถึงซุ้มยากิโซบะที่ว่า เหมือนว่าอาจจะต้องรอคิวเล็กน้อยล่ะ
“ถ้าเป็นอาคาริจังจะเลือกยากิโซบะแบบไหนหรอคะ?”
“มีขนมปังหรือไม่มีดีคะ?”
comment in response to
post
เด็กสาวสลับมองชายหนุ่มข้างๆกับเส้นทางลงบันไดตรงหน้า คงอีกไม่นานก็จะลงไปถึงยังเบื้องล่างสุดแล้ว
“อย่างน้อยตอนนี้ก็มีฉันร่วมทางไปด้วยนะคะ”
แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าหากตนไม่ได้เจอคู่สนทนา เหตุการณ์จะเป็นเช่นไร
แต่อย่างน้อยๆเธอก็เลือกจะพูดให้ดูอุ่นใจขึ้นดีกว่า
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้วคะ?”
เสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างใจเย็น
comment in response to
post
“ดีใจที่ได้ช่วยคุณนะคะ”
เธอเอ่ยด้วยเสียงนุ่มอย่างอบอุ่น
ความโล่งใจเริ่มแผ่กระจายไปทั่วจิตใจ แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินได้ถึง บางอย่าง รอบตัว
ฟูมิโอะเริ่มตั้งสติก่อนจะค่อยๆขยับเท้าให้ไวกว่าปกติเล็กน้อยโดยไม่ทิ้งคู่สนทนาไว้ด้านหลัง
comment in response to
post
ทันทีที่สัมผัสของมือเริ่มอุ่นขึ้น เด็กสาวก็เริ่มมีความรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง เธอคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับช่วยประคองตัวอีกฝ่ายขึ้นมา
เสียงกระทบของรองเท้านักเรียนเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้ก้าวเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอเหมือนครั้งแรก มันค่อยๆไปอย่างใจเย็นเพื่อรอจังหวะฝีเท้าของอีกคนไปด้วยกัน และมือคู่เดิมก็คอยประคองร่างของบุรุษไปรษณีย์ไม่ให้เซจนล้มลงไป
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ”
(+)
comment in response to
post
“อื้ม ไว้เจอกันนะคะ”
ฟูมิโอะคลี่ยิ้มก่อนโบกมือลาอีกฝ่ายเบาๆ พร้อมกับเท้าทั้งสองที่เริ่มก้าวออกมาจากโรงอาหารและตรงสู่ห้องเรียน
(เค้าขอจบตรงนี้เลยนะคะเตง🥺)
comment in response to
post
มือข้างหนึ่งที่ลูบหลังอย่างแผ่วเบาเช่นเคยและอีกข้างหนึ่งแบออกมาให้คนตรงหน้าได้เห็น
“ไปด้วยกันเหมือนเดิมนะคะ?”
“เหมือนตอนแรกที่ขึ้นมาด้วยกันค่ะ”
มือเรียวที่ถูกแบออกไม่ได้ถูกคาดหวังให้มีใครมาจับตอบ เพียงแต่อยากจะสื่อให้คนที่เห็นรับรู้ว่า ยังมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ข้างกาย
ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ
comment in response to
post
เด็กสาวได้แต่ก้มหน้าเงียบและลูบหลังชายตรงหน้าต่อไป
แน่นอนว่าเธอเข้าใจได้
ไม่มีใครชอบเรื่องแบบนี้หรอก
เธอเองก็เช่นกัน
“ใจเย็นๆนะคะ”
เสียงนุ่มเอ่ยวนซ้ำคำเดิมไปมาจนเริ่มนึกถึงคำที่มิโดริมิโกะได้เอ่ยก่อนหน้า
เวลาแบบนี้จะยิ่งมีผู้ไร้เงามากขึ้น
อยู่ตรงนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่
ยิ่งกับคนที่เธอกำลังปลอบด้วยแล้ว...
“คุณบุรุษไปรษณีย์ ลุกไหวรึเปล่าคะ?”
“เรารีบกลับไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ”
(+)
comment in response to
post
“งั้นหรอคะ?”
เธอเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะหลุบตาลงคิดว่าปลายทางจะเป็นที่ไหนดี
แต่เมื่อได้ยินคำถาม เจ้าตัวก็ได้เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“ถามแบบนี้ฉันตอบยากพอควรเลยล่ะค่ะ”
“จะว่ายังไงดีล่ะ ถ้าเป็นเรื่องของกินแล้วล่ะก็ฉันแทบจะชอบทั้งหมดเลยนี่สิ แปลกรึเปล่าคะ?”
นิ้วเรียวเริ่มถูแก้มไปมาเบาๆอย่างเคอะเขิน
“อ่ะ แต่ว่าไม่นับพวกปลาหมึกนะคะ..”
comment in response to
post
จนกระทั่งเสียงร้องดังลั่นจากบุรุษไปรษณีย์ ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด และรีบเข้าไปดูอาการในทันที
“คุณ คุณคะ!”
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
มือเรียวค่อยๆแปะลงบนแผ่นหลังชายหนุ่มและลูบปลอบอย่างอ่อนโยน ในขณะเดียวกัน ก็หันกลับไปมองคนที่น่าจะเป็นต้นเสียง
หายไป
นี่มัน เรื่องอะไรกัน?
ฟูมิโอะเม้มปากอย่างไม่สบายใจแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่หยุดมือลง
“ค่อยๆหายใจเข้าออกลึกๆนะคะ”
comment in response to
post
ได้ผลสินะ?
เธอคิดเช่นนั้นในใจ ส่วนใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มไม่จางหายแม้ว่าจะได้ยินเสียงจิ๊จากอีกฝ่ายด้วยก็ตาม
“ค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”
แน่นอนว่าเธอทราบดี เมื่อตะวันใกล้ลับขอบฟ้า บนเกาะนี้ก็ยิ่งพบเรื่องอันตรายได้ง่ายมากขึ้น แม้กระทั่งในศาลเจ้าเอง
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตั..”
เสียงที่เอ่ยยังไม่ทันจบ ก็ได้เสียงบางอย่างเข้าแทรก
เสียงนี้อีกแล้ว อะไรกัน..?
(+)
comment in response to
post
(อ้ยขอบคุณทางนู้นเช่นกันนะคะ /เพ้ทๆซายะจัง🥺🫳✨)
comment in response to
post
“ฉันอยากเดินเล่นแล้วก็คุยไปด้วยกับอาคาริจังนะคะ”
“เพราะงั้นไม่คิดมากหรอกค่ะ”
แสงสีส้มที่กระทบลงบนผิวหน้ายิ่งแสดงให้เห็นถึงความยินดีอย่างชัดเจน
“อ้ะ ถ้าอย่างนั้นก็ขออนุญาตนะคะ”
เสียงรองเท้าเกี๊ยะดังขึ้นอีกครั้ง มันค่อยๆก้าวไปอย่างช้าๆและใจเย็นดั่งเจ้าของ
“อาคาริชอบทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ?”
comment in response to
post
“อย่างนี้นี่เองค่ะ”
แต่ถ้าเก็บริ้บบิ้นทำไมตอนแรกเธอได้ยินเสียงคนกันนะ..
อืม ไม่ล่ะ ช่างเถอะเนอะ
“นั่นสินะคะ ยิ่งมืดๆจะเปลี่ยว ถ้ายังไงให้ฉันเดินไปส่งมั้ยคะ? สักครึ่งทางก็ได้ค่ะ”
comment in response to
post
เพียงแต่..
เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองไปยังผู้ร่วมทางที่สีหน้าเริ่มไม่สู้ดีเท่าไหร่แล้ว
... เสียงแบบนั้นอีกแล้ว
รู้สึก ไม่สบายใจเอาซะเลย
“ก็ถูกของคุณนะคะ เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งมากๆเลยค่ะ”
ฟูมิโอะกลืนน้ำลายเบาๆพลางคลี่ยิ้มออกมา
“นี่ก็เย็นมากแล้ว.. ยังไงเราให้คุณบุรุษไปรษณีย์รีบกลับไปพักผ่อนดีมั้ยคะ?”
“ทำงานมาหนักน่าจะเหนื่อยน่าดูน่ะค่ะ”
จะพอช่วยได้มั้ยนะ?
comment in response to
post
เพราะเธอนั้นเป็นคนหูดี ไม่ว่าจะเสียงเล็กน้อยเท่าใดก็ตาม แน่นอนว่ารวมเสียงประหลาดที่ไม่ได้จากมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ใช่ เฉกเช่นเสียงของมิโกะเมื่อครู่เช่นกัน
ด้วยสัมผัสพิเศษติดตัวนั่นเลยไม่ได้ทำให้เด็กสาวสะทกสะท้านเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะวางใจได้ทั้งหมด
“ ...อ๋า นั่นสินะคะ”
ดูเหมือนว่าจะเข้าใจไปคนละอย่างที่ตนนั้นจะสื่อ แต่เธอนั้นก็ไม่ปฏิเสธในสิ่งที่มิโดริมิโกะพูดหรอกนะ
(+)
comment in response to
post
“ตายจริง นั่นสินะคะ สงสัยฉันจะอ่านหนังสือเยอะเกินจนเบลอๆน่ะค่ะ”
ฟูมิโอะเองก็หัวเราะเบาๆให้กับคู่สนทนา
บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไปนั่นล่ะ
“ว่าแต่เวลาขนาดนี้ซายากะจังทำอะไรอยู่หรอคะ?”
(ว้ากกกน่ารักมากเลยค่ะฮื่ออออ😭🫳✨✨✨)
comment in response to
post
(ได้เลยค่าา ขอบคุณเช่นกันนะคะะ🫶🏻✨✨)
comment in response to
post
“อื้ม ดีแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแยกกันตรงนี้ก็ได้นะคะ ฉันเองก็ต้องไปหาครอบครัวแล้วค่ะ”
เด็กสาวค่อยๆลุกขึ้นและปัดเศษหญ้าออกจากกระโปรงเบาๆ
“ฮะๆได้เลยค่ะ ขอบคุณเธอเหมือนกันนะคะ วันนี้สนุกมากๆเลย”
“ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันนะคะ”
ฟูมิโอะคลี่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆเดินออกไป ดูท่าเธอน่าจะได้พบเจอเด็กที่น่าเอ็นดูอีกคนแล้วล่ะ
comment in response to
post
ยิ่งได้ฟังคำตอบและเห็นภาพของเด็กหนุ่มที่ร่าเริงขึ้นมาก็ทำเอาเธอยิ้มแย้มจนตาแทบจะปิด
“อื้ม ได้สิคะ”
“ต้องสนุกมากแน่ๆเลยค่ะ”
เสียงหัวเราะแสนนุ่มนวลได้ถูกเปล่งออกมา เธอกล่าวย้ำราวกับเชื่อมั่นว่าจะต้องเป็นแบบนั้นจริงๆแน่นอน
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“รู้สึกสบายใจขึ้นแล้วใช่มั้ย?”
comment in response to
post
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่อาจจะปัดเป่าความสงสัยในตัวอีกฝ่ายไปได้ทั้งหมด
“ยังไงก็ขอบคุณที่เหนื่อยในวันนี้นะคะ”
รู้ว่าเราเป็นมิโกะด้วย.. ถ้างั้นคงเป็นมิโกะประจำศาลเจ้าสักคนที่เธอคงยังไม่เจอหน้าสินะ?
comment in response to
post
เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างตรงไหล่ทำให้เด็กสาวค่อยๆหันหน้าไปมองเจ้าของสัมผัสนั้น
“เอ่อ.. คุณ?”
ไม่ทันได้เอ่ยทำถามใดๆก็ดูเหมือนว่าบุรุษไปรษณีย์ที่ร่วมทางมาด้วยกันจะไขขอสงสัยในหัวของเธอได้แล้ว
ไม่เคยเจอมาก่อนด้วยจริงๆสินะ...
แต่ทำไมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแบบนี้?
“มิโดริซังสินะคะ? ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ฟูมิโอะก้มโค้งให้เพื่อนร่วมงานอย่างสำรวม รอยยิ้มบางถูกคลี่ออกมาอย่างไร้พิษภัย
(+)
comment in response to
post
“ไม่หรอกค่ะ ออกจะเป็นงานอดิเรกที่ดีนะคะ”
ฟูมิโอะพูดพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ฉันเองก็ชอบออกกำลังกายเหมือนกันค่ะ”
สายลมที่พัดพาให้เส้นผมปลิวไสว พร้อมกับบทสนทนาที่เรื่อยไป ทำให้รู้สึกสดชื่อขึ้นจริงๆ
“ดูแล้วถ้าพวกเราจะไปเดินออกกำลังกายด้วยกันสักหน่อยน่าจะดีนะคะเนี่ย”
comment in response to
post
“จริงหรอคะเนี่ย? ดูแล้วถ้าได้มาแลกหนังสือกันอ่านคงจะไม่เลวสินะคะ”
เด็กสาวหัวเราะเบาๆ แน่นอนว่าเธอเองก็เพลิดเพลินไปกับบทสนทนาเช่นเดียวกัน
“อ่ะขอบคุณนะคะแต่ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
มือเรียวเริ่มม้วนผมไปมา ราวกับว่าทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยเมื่อถูกชม
“แล้วเธอล่ะคะ ถ้านอกจากอ่านหนังสือแล้วชอบทำอะไรในเวลาว่างหรอคะ?”
comment in response to
post
ทันทีที่นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสบเข้ากับร่างของรุ่นน้องชมรม ความกังวลในหัวก็ค่อยๆเลือนหายไปเหมือนสายลม
“ซายากะจังนี่เอง..”
ฟูมิโอะถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มออกมาอย่างยินดี
“เดี๋ยวก็จะกลับหอแล้วล่ะค่ะ”
“พอดีได้ยินเสียงเลยตามมาดูว่ามีใครยังอยู่รึเปล่าน่ะค่ะ”
“ไหนๆก็แล้ว.. กลับหอด้วยกันมั้ยคะ?”
(ไม่เป็นไรนะคะคุณ เทคไทม์ได้เลย🥺)
comment in response to
post
“เอ๋.. อย่างนั้นหรอคะ?”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงท่าทีสงสัยออกมาแม้แต่น้อย
“อื้มได้สิ เรียกตามที่เธอสะดวกได้เลยค่ะ”
ฟูมิโอะหัวเราะเบาๆ ดูท่า จะเอ็นดูคนตรงหน้ามากกว่าล่ะมั้งนะ?
“อืมเวลาปกติๆล่ะก็.. ชอบอ่านหนังสือน่ะค่ะ”
“แต่ถ้ามีเวลาเพิ่มขึ้นหน่อยก็จะซ้อมเล่นซามิเซ็งน่ะค่ะ”
comment in response to
post
“อย่างนั้นเองหรอคะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปด้วยกันดีมั้ยคะ?”
“ฉันเองก็ว่าจะไปหาของกินก่อนกลับพอดีเลยล่ะค่ะ”
แน่นอนว่าพอพูดถึงของกินฟูมิโอะก็ค่อนข้างจะดีใจออกนอกหน้าสมควร หลักฐานก็คงเป็นรูปตาที่ปิดเป็นสระอิพร้อมรอยยิ้มล่ะ
comment in response to
post
สองเท้าค่อยๆก้าวต่อจนไปยังพื้นที่ที่มีมิโกะประจำอยู่เยอะขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อเช็คว่าได้พาบุรุษคนนี้มาถูกแล้ว
“ที่นี่ล่ะค่ะ”
“ติดต่อกับคุณมิโกะทางนั้นได้เลยนะคะ”
เธอผายมือไปยังบริเวณที่เป็นห้องทะเบียนของศาลเจ้าก่อนจะยืนอย่างสำรวมอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนราวกับว่าจะรอเดินไปส่งคุณในขากลับด้วย
comment in response to
post
ฟูมิโอะคลี่ยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ คงเป็นเป็นวันที่ดีอยู่สินะ
“อ้ะ ฉันหรอคะ?”
“อืม.. วันนี้ก็มีคนมาที่ศาลเจ้าพอสมควรเลยล่ะค่ะ”
“ฉันชอบนะคะเวลาที่บรรยากาศในศาลเจ้าเต็มไปด้วยคนที่มาสักการะ มันงดงามมากเลยล่ะค่ะ”
ใบหน้าเด็กสาวถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันแห่งความสุข แน่นอนเธอค่อนข้างจะชอบงานของเธอมากเลยทีเดียวแม้ว่าจะเป็นพาร์ทไทม์ก็ตาม
(+)
comment in response to
post
“คงจะกลับห้องเหมือนกันค่ะ”
“อีกสักพักก็น่าจะถึงเวลาเรียนแล้วนี่เนอะ”
ไม่พูดเปล่ามือเรียวก็พลางเปิดโทรศัพท์เพื่อดูควบไปด้วย
หน้าจอแสดงถึงเวลาปัจจุบันดูเหมือนจะมีเวลาอีกประมาณ10นาทีก่อนเข้าเรียน
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราแยกกันตรงนี้มั้ยคะ?”
ฟูมิโอะคลี่ยิ้มพร้อมกับค่อยๆขยับตัวออกจากเก้าอี้โรงอาหาร
comment in response to
post
“อ่ะ.. อย่างนั้นหรอคะ?”
ตากลมเบิกกว้างเล็กน้อย เพราะคำตอบของอีกฝ่ายค่อนข้างคาดไม่ถึงสำหรับเธอนิดหน่อย
“แต่ยังไงก็ สุขสันต์วันทานาบาตะนะคะ”
ฟูมิโอะก้มโค้งกลับอย่างสำรวม
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างเคย
“ถ้าอย่างนั้นอาคาริจังจะที่ไหนต่อรึเปล่าคะ?”
comment in response to
post
เสียงเตาะแตะจากรองเท้าเกี๊ยะดังขึ้นและหยุดลง เจ้าของรองเท้าได้ก้มหยิบอะไรบางอย่างที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้
“อาคาริจัง ทำตกรึเปล่า?”
ฟูมิโอะ หยิบกระดาษที่บอบบางนั้นขึ้นก่อนจะหันไปหาอีกคน
“แต่ว่า..กระดาษพวกนี้ยับหมดแล้วไปเอาแผ่นใหม่มาเขียนกันมั้ยคะ?”
แสงโคมไฟข้างทางกระทบลงบนตัวเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างเช่นเคย
comment in response to
post
พอได้ยินอย่างนั้นทำให้ฟูมิโอะคลี่ยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ดีใจที่ทำให้เธอสบายใจขึ้นได้นะคะ”
สองมือที่กุมแน่นที่ตักก็ดูจะผ่อนลงตามความรู้สึกของเธอด้วย
“จริงๆฉันเปิดเรื่องชวนคุยไม่เก่ง เธอเริ่มก็ได้นะคะ”
“อ่ะแต่จริงสิ”
“ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นา”
เด็กสาวนำนิ้วเรียวมาเกาแกมเบาๆ
“ฉันชื่อ เออิจิ ฟูมิโอะ นะคะ แล้วเธอล่ะ?”
ถ้าหากจำนามสกุลนี้ได้น่าจะพอคุ้นเคยกับใครสักคนอยู่นะ?
comment in response to
post
ฟูมิโอะยิ้มบางๆ พยายามไม่คิดถึงชื่อมิโกะที่พึ่งได้ยินไปไม่นาน
“แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้างคะคุณบุรุษไปรษณีย์?“
”ได้ส่งของเยอะเลยรึเปล่าคะ?“
comment in response to
post
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
เด็กสาวส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะแค่นในลำคอ
แม้ว่าจะได้ยินเสียงพึมพำพวกนั้นเข้าหูมาเป็นระยะ หรือว่าจะเสียงลมที่ทำให้ต้นไผ่ไหวไปมาจนกระทบกันกับดูมืดหม่น แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดฝีเท้าลงแม้แต่น้อย
“มิโดริซัง..”
เพราะว่าเธอพึ่งทำงานพาร์ทไทม์ได้ไม่นาน บางทีอาจจะเป็นคนที่เธอไม่รู้จักก็ได้ล่ะมั้ง?
“ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณที่สำนักทะเบียนนะคะ“
(+)
comment in response to
post
“อ๋า..”
ฟูมิโอะเหลือบมองมืออีกฝ่ายที่กำหญ้าไปมาราวกับเด็ก
“แต่ก็ถือว่าสบายใจขึ้นบ้างแล้วสินะคะ ดีแล้วล่ะคะ“
หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่สบายใจเลยนี่นา..
“ไหนๆก็ไหนๆ มาคุยเล่นกันมั้ยคะ?”
“อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ร่าเริงขึ้นนะคะ”
comment in response to
post
แม้ว่าจะไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่เพียงแค่ฟังเสียงและดูท่าทางของอีกฝ่ายก็พอจะเดาออกว่าทำไมเขาถึงยังไม่ขึ้นไปส่งของ
“ไม่เป็นไรนะคะ ไปด้วยกันค่ะ”
เด็กสาวย้ำราวกับบอกว่าไม่ต้องกังวลไปนะ พลาวยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆเดินนำอีกฝ่ายไปอย่างช้าๆ ดวงตากลมก็คอยทอดมองอีกฝ่ายสลับไปเป็นระยะๆ
“มาส่งพัสดุให้กับใครงั้นหรอคะ?”
เธอเอ่ยถามเพื่อที่บรรยากาศจะได้ไม่เงียบจนเกินไป
comment in response to
post
ความเงียบทำให้หลังของฟูมิโอะรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันใด
หรือว่าเธอนั้นจะคิดผิดกันนะ?
เด็กสาวเลือกที่จะเงียบตามบรรยากาศโดยรอบ ก่อนที่สองเท้าค่อยๆก้าวไปใกล้ต้นเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ
เจ้าตัวรีบตั้งสติ ก่อนจะตัดสินใจโผล่หน้าไปพบกับ สิ่งนั้น ที่เป็นต้นเสียงของเรื่องทั้งหมด
comment in response to
post
“เรียกว่าเซนส์ แบบนั้นก็ได้มั้งคะ?”
เสียงหัวเราะของเด็กสาวโต้กลับไปเบาๆ
“แล้วก็.. เพราะว่าตอนแรกเธอบอกว่ามาหาที่ที่ทำให้สบายใจ”
“แสดงว่าก่อนหน้านี้คงมีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่านะคะ?”
ฟูมิโอะค่อยๆกล่าวด้วยความนุ่มนวล
“อ่ะ แต่ถ้าหากฉันดูยุ่งเรื่องของเธอมากเกินไปก็ขอโทษด้วยนะคะ”
comment in response to
post
“อย่างนั้นเองหรอคะ”
นัยน์ตากลมทอดมองไปยังคู่สนทนาอย่างนิ่งๆ
“แต่ก็จริงนะคะ วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ”
มือเรียวทั้งสองประสานกันแน่นอยู่บนตัก เธอปล่อยให้ความเงียบปกคลุมไปสักพักก่อนจะปริปากออกมา
“ยังคงมีอะไรในใจใช่มั้ยคะ?”