Profile avatar
wildberrytea.bsky.social
wild berry tea🪶 | #ดาร์ลิงของกริฟฟิน CR ✒️: #แดงน้อยของโรแวน | Review: #BerryRead
191 posts 198 followers 48 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to post
แต่ส่วนตัวคิดว่าช่วงท้ายมันไม่เคลียร์หลายอย่าง น่าจะเป็นจุดด้อยของเรื่องเลย คือมันยังมีคำถามค้างไว้มากมายว่าคนพวกนี้เป็นใคร พฤติกรรมเหล่านี้คืออะไร สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อนบ้าน ฯลฯ จากตอนแรกสนุกสุดตึงตอนท้ายกลับแอบเสียดายอยู่เยอะ แต่ก็แนะนำให้อ่านนะ มันก็สนุกดีแม้จะหงุดหงิดนิดก็เถอะ
comment in response to post
อ่านเอาสนุกก็ได้อยู่เพราะมันสนุกจริงๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบคอนเซ็ปต์บ้านเก่าในที่ห่างไกล ติดป่า มีห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน และกลุ่มคนแปลกหน้าที่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ผสานความไซโคเข้าไปนิดๆ อะไรแบบนี้น่าจะชอบเป็นพิเศษ
comment in response to post
ไทม์ไลน์มันเป็นแค่ช่วงเวลา 2-3 วันเท่านั้น เล่าเรื่องประหลาดที่ Eve ได้เจอในบ้าน การที่ตัวเองเริ่มแยะไม่ออกว่าสิ่งตรงหน้าคือเรื่องจริงหรือแค่ภาพประหลาดที่ถูกยัดใส่สมอง คนตรงหน้าคือคนที่ตัวเองรู้จักหรือแค่ตัวอะไรสักอย่างที่เข้ามาสวมรอย กลายเป็นอาการหวาดระแวงที่ทำคนอ่านสับสนไปด้วย
comment in response to post
Eve เองเดิมทีมีอาการ paranoia อยู่แล้ว ในหัวมักจะมีเสียงของตุ๊กตาตัวโปรดแทรกเข้ามาพูดเรื่องร้ายๆ ตลอด และพฤติกรรมของคนบ้านนี้ก็ประหลาด รวมถึงได้เห็นว่าบ้านหลังนี้มีอะไรพิลึกแฝงอยู่ เหมือนบ้านมีชีวิตและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนทำให้ Eve เริ่มสติแตกขึ้นทุกขณะ
comment in response to post
แล้วตอนที่คนพวกนี้ควรออกไปลูกสาวดันไปซ่อนตัวในบ้าน หาไม่เจอ จน Charlie แฟนของ Eve กลับมาก็เสนอให้พวกเขาอยู่กินมื้อค่ำกันก่อน (Eve อยากไล่พวกเขาไปใจจะขาด) ความไกลปืนเที่ยงแถมหิมะตกหนัก สุดท้ายคนแปลกหน้า 5 คนจึงพักที่บ้านหลังนี้ก่อนตามมาด้วยเรื่องประหลาดมากมาย
comment in response to post
คนพ่อที่บอกว่าเคยอยู่ที่นี่ก็พาลูก 3 คนของตัวเองเดินดูบ้าน ตรงนั้นเคยเป็นแบบนั้น ตรงนี้เป็นแบบนี้ Eve ก็ตามไปด้วยเรื่อยๆ ยังระแวงและระวังอยู่ก่อนพบว่าพฤติกรรมพ่อมันแปลกๆ แม่ก็ดูคลั่งศาสนา ส่วนลูกชายสองคนชอบทะเลาะกัน ลูกสาวช่างคุยแต่เป็นเด็กเปรตที่ชอบไปเล่นซ่อนหาคนเดียว
comment in response to post
เรื่องนี้เป็น Horror-Mystery ที่ดังพอตัวเลย อ่านเองแล้วก็รู้สึกว่าสนุกดีสมกับที่เขาลือกัน Eve อยู่บ้านคนเดียวตอนแฟนออกไปข้างนอกแล้วเจอครอบครัวแปลกหน้ามาเคาะประตูขอเข้าไปดูในบ้านสักหน่อย ด้วยความลำบากใจอะไรต่างๆ ก็ไม่อยากหรอก แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนให้พวกเขาเข้ามาในบ้านได้ในท้ายที่สุด
comment in response to post
สปอยล์ . . . แต่ก็ชอบตอนเนอจาอยู่กับรินมากกว่าตอนรินอยู่กับทัลลัน แม้ดูเหมือนรินจะชอบทัลลันก็เถอะ แต่แบบ เออ ทัลลันเหมาะกับพ่อหนุ่มหัวขาวชากานคนนั้นมากกว่า เห็นฝรั่งบอกคือโกะโจเกะโทอะไรประมาณนั้น ก้อเรย 👉👈😂 (จบเธรด)
comment in response to post
อันนี้ติดสปอยล์นิดนึง . . . กลายเป็นว่าตลคที่ชอบคือเนอจา ตอนแรกไม่ชอบเพราะแนวเด็กขี้บุลลี แต่ไปๆ มาๆ เคมีนางตอนอยู่กับรินก็เข้าท่าดีนะ ให้อารมณ์แบบเดรโกเฮอร์ไมโอนี แล้วตอนหลังนางก็ขอโทษอย่างจริงใจและไม่ได้ทำนิสัยอย่างนั้นแล้ว เห็นว่ามี novella มุมมองของนางด้วย ซึ่งกลัวนางตุยมาก🥲
comment in response to post
ให้พูดความรู้สึกคือผิดหวังจากที่คาดหวังนิดหน่อย แต่พอมองว่าเป็นงาน debut ก็เข้าใจได้แหละ อีกอย่างคือค่อนข้างไม่ชอบการต้องเมายาเพื่อเจอเทพอ่ะ ผิดปะ แต่รู้สึกประหลาด 😅 แล้วก็ไม่ค่อยชอบแนวความคิดบางอย่างของตัวเอก เข้าใจว่าสงครามส่งผลกระทบกับจิตใจคนได้ง่าย แต่ก็นะ...
comment in response to post
เรื่องการแปลโดยรวมก็อ่านได้เรื่อยๆ ดี แต่มันก็มีบางประโยคที่แปลแล้วต้องอ่านซ้ำหลายรอบเพราะไม่เข้าใจ ซึงไม่แน่ใจว่าเพราะการแปลหรือเพราะมันเป็นสไตล์การเขียนของนักเขียน นี่ไม่มีต้นฉบับอยู่กับตัวเลยเทียบไม่ได้ กับพวกเขียนชื่อตลคผิดอะไรงี้ยังมีให้เห็นประปรายแต่รวมๆ ก็ไม่ได้แย่อะไร
comment in response to post
เลยติดๆ นิดหน่อย เพราะคนเขียนไม่ได้โควทว่าอิงจากใครอะไรยังไง เพราะในเรื่องก็อิงทฤษฎีขงจื๊อเม่งจื๊ออะไรพวกนี้ทั้งเรื่อง ก็พูดชื่อออกมาได้หมดแต่ทำไมไม่พูดออกมาว่าคือวิธีขงเบ้งแต่ดันให้ตลคพูดมาเหมือนคิดได้เองและอาจารย์ก็บอกว่าดีอะไรงี้ งงมาก 5555
comment in response to post
ที่ติดหน่อยคือในเรื่องมีพาร์ทที่อาจารย์สอนการวางกลยุทธ์ถามวิธีแก้ปัญหาแล้วมีตลคแนะนำอุบายขึ้นมาซึ่งนี่เคยอ่านสามก๊ก แวบเดียวก็รู้แล้วว่าเอาอุบายยืมเกาทัณฑ์ของขงเบ้งมาเขียนให้ตลคพูดเหมือนความคิดตัวเอง กับฉากอุ้มหมูขึ้นเขาไปกินน้ำนี่ก็เคยอ่านจากไหนสักที่แต่ดันจำไม่ได้ว่าอ่านจากไหน
comment in response to post
ตัวละคร morally grey ไม่ได้รู้สึกเชียร์เป็นพิเศษและก็แอบมีความน่ารำคาญในความอยากเอาชนะ หัวรั้น ดื้อดึง บางการกระทำก็ทำให้เราไม่พอใจ (มากๆ) ไม่ใช่เฉพาะตัวเอกแต่กับอีกหลายๆ ตัวด้วย แต่ก็โชว์ความเป็นมนุษย์ดี ว่าเออก็แค้นเป็น ขี้ขลาดเป็น ตัวสั่นหวั่นกลัวเป็น และโง่เป็นนะเออ
comment in response to post
ซึ่งมันก็จะโยงไปถึงพาร์ทสงครามเพราะอ่านเจอมาว่าคนเขียนเบสจากสงครามนานกิง ถ้าใครเคยอ่านหลั่งเลือดที่นานกิงก็จะเจออะไรแนวๆ นั้นในพาร์ทสงครามของนิยายเล่มนี้แหละ ซึ่งตกใจมากที่สนพไม่เขียน tw ไว้ ลองเช็คแล้วทั้งเล่มไม่มี อันที่จริงมันต้องแจ้งแล้วว่า massacre/rape/gore/tortured ไรงี้😨
comment in response to post
อีกเรื่องคือมันเป็นนิยายที่มีเบสประวัติศาสตร์จีนเป็นฐาน แล้วใส่ความตะวันตกเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ เอามาเขียนแบบนี้ก็เหมือนเกี๊ยวรสชีส บางคนอ่านแล้วหงุดหงิดก็มีเหมือนกันเพราะมันจะจีนก็ไม่จีน แล้วไม่รู้คิดไปเองมั้ยแต่ฝั่งตัวร้ายมีชื่อแบบญี่ปุ่น (สหพันธรัฐมุเก็น, ชิโระ แพทย์คลั่งวิจัย)
comment in response to post
ที่บอกว่าอาจไม่เหมาะกับทุกคนก็เพราะแบบนี้ ระบบพลังแบบนี้มันดูเป็นนามธรรมและมันน่าหยิบมาถกกันว่าแท้ที่จริงมันคือการสื่อสารพระเจ้าได้หรือแค่การเมายาเท่านั้น การอธิบาย world building ก็ยาวยืดเหมือนนั่งฟังเลคเชอร์วิชาปรัชญา คนชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็จะเบื่อเลย (แต่นี่ชอบนะ 5555)
comment in response to post
และวิธีนี้ไม่ใช่ว่าคิดจะทำก็ทำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะมีคนมากมายที่เจอปัญหา เป็นบ้า ติดอยู่ระหว่างโลกฝั่งนี้และฝั่งนั้น ไม่ก็พ่ายแพ้ให้กับเทพเจ้าจนถูกชิงร่างและลงเอยด้วยการถูกลากไปขังไว้ในภูเขา นับเป็นตัวอันตรายที่หากปล่อยออกมาก็สามารถทำลายล้างประเทศได้เลย
comment in response to post
รินเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เรียนรู้สิ่งนี้จากอาจารย์เพี้ยนๆ ที่นักเรียนและอาจารย์ด้วยกันชิงชัง แต่การจะเข้าถึงเทพเจ้าต้องอาศัยการเสพสารหลอนประสาท(mostly ฝิ่น)ก็คือต้องกินฝิ่นพอให้ high เพื่อตรงดิ่งหาเทพเจ้า สื่อสาร และยืมพลัง (แนวๆ ประทับร่าง) ซึ่งพลังที่ได้ก็มหาศาลจนมนุษย์หวาดกลัว
comment in response to post
พูดถึง magic system ของเรื่องค่อนข้างแหวกแนวและไม่ตรงไปตรงมาเมื่อมองจากการแปะป้ายให้นิยายเป็นแนว fantasy เพราะระบบในเรื่องเป็นนามธรรมมากกว่า โลกในนิยายไม่มีใครเชื่อเรื่องเทพเจ้า พวกที่ติดต่อสื่อสารถูกผลักเป็นชาวนอกด่านและค่อยๆ หายไป ดังนั้นคนที่หยิบยืมพลังได้จึงนับว่ามีน้อยมาก
comment in response to post
ต่อจากนั้นสงครามฝิ่นครั้งที่สามก็ปะทุ ตรงนี้จะไม่ใช่นิยาย YA แล้วเพราะเนื้อหาหนักหน่วงมาก กลายเป็น military fantasy การทำสงคราม การวางกลยุทธ์ พลังวิเศษที่ได้จากการวอนขอเทพเจ้าแต่ก็ต้องพบกับความเสี่ยงในพลังที่ยิ่งใหญ่นั้นเพราะเทพเจ้าไม่ใช่อะไรที่จะคุมให้อยู่ในร่างมนุษย์ได้ง่ายๆ
comment in response to post
โรงเรียนที่เต็มไปด้วยลูกหลานผู้ปกครองชั้นสูงที่พร้อมจะกดเด็กบ้านนอกที่จับพลัดจับผลูมาเรียน อาจารย์ที่ชิงชังและคิดว่าวิชาต่อสู้ไม่สมควรให้เด็กบ้านนาได้ศึกษา แต่รินก็บ่มเพาะตัวเองและได้เจอกับอาจารย์เพี้ยนๆ กลายเป็นศิษย์คนเดียวของเขาและได้รู้ศึกษาการสื่อสารกับเทพเจ้ารวมถึงพลัง
comment in response to post
นิยายแฟนตาซีไตรภาคผลงานเดบิวต์ของ R.F. Kuang ช่วงแรกมีกลิ่นอายของ YA ชัดเจน เรื่องของเด็กสาวที่ถีบตัวเองเรียนเพื่อจะได้หนีชะตากรรมเลวร้าย ไม่อยากค้าขายฝิ่น และไม่อยากจบด้วยการคอยใช้ฝิ่นมัวเมาสามีแก่เพื่อครองสมบัติ และรินก็ทำได้ ได้เข้าไปในโรงเรียนทหารของเมืองหลวงที่แสนเลวร้าย
comment in response to post
เน้นตรงนี้ว่าแนะนำให้ดู trigger warning ก่อนอ่านจริงๆ ไม่งั้นมีอ้วกแตก แต่นี่ว่าควรเพิ่มไปอีกอย่างคือพฤติกรรมใคร่เด็กของบางตลค ไม่มีเขียนเตือนไว้แต่อ่านแล้วพบว่าบรรยายในเชิงมีความชื่นชอบผู้มีลักษณะเหมือนเด็กค่อนข้างมากทีเดียว อ่านแล้วยังแหยงความจริงควรมีเตือนไว้นะ 😨
comment in response to post
พูดตรงๆ คือเมืองคนบาปอาจไม่ใช่หนังสือสำหรับทุกคน เพราะมันชวนแหวะและบรรยายอย่างโจ่งแจ้งในพฤติกรรมน่าชิงชังเหล่านั้น และอย่างที่บอกไปว่าไม่มีตลคไหนในเรื่องน่าสงสารหรือเอาใจช่วย แต่มันอยู่ในจุดที่คนอ่านอยากรู้ว่าบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นยังไง อะไรทำนองนี้มากกว่า
comment in response to post
นิยายบรรยายผ่านฤดูกาลต่างๆ ของปี ความอดอยากทารุณที่สวนทางกับความสำเริงสำราญในปราสาทท่านลอร์ด การหยิบเอาศรัทธาทางศาสนามาเป็นแกนสำคัญในการดำเนินเรื่อง สันดานดิบของมนุษย์ และเนื้อหาชวนแหวะชวนแขยงคือจุดเด่นของเรื่องที่คนชอบก็คงชอบ แต่ถ้าไม่ชอบก็อาจจะไม่ชอบและหยุดอ่านไปเลยก็ได้
comment in response to post
เมืองแลปโวนาเผชิญชะตาชีวิตแสนทารุณจากการปล้นฆ่าของโจรรวมถึงความอดอยากแร้นแค้นจากภัยแล้ง แต่ชาวแลปโวเนียนก็ยังเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ลิขิตโดยพระผู้เป็นเจ้า แม้แท้จริงแล้วเป็นเพียงลูกเล่นหนึ่งของการปกครองโดยลอร์ดเจ้าของที่ดินที่ร่วมมือกับบาทหลวงผู้ชื่นชอบเรื่องสนุก
comment in response to post
- ทุนไห่ ชอบจักรวาลนี้อยู่แล้ว ไม่ติดสิแปลก - ใต้สมุทรไม่สิ้นแสง นั่นแหละ ชอบความเนิร์ดบางอย่างในเรื่อง อ่านแล้วลุ้นดี
comment in response to post
- มาทาดอร์ที่รักฯ อยากพูดอีกหลายร้อยครั้งว่าเล่มนี้สมควรแมส พี่กะเทยสมควรเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ 😣 -ม่านหมอกไร้สิ้นสุด ชอบนิยายแนวที่แสดงให้เห็นว่าคนแต่งเนิร์ดแค่ไหนอ่ะ โดยเฉพาะบรรยากาศเล่ม 2 มันคือ horror ดีๆ นี่เอง - มุกพักใจของหยกร้าว ม้ามืดแหละไม่คิดว่าจะชอบขนาดนี้ แต่นี่ชอบการซัพพอร์ตกันและกันของตัวละครหลักสุดๆ
comment in response to post
- The secret history ชอบบรรยากาศ ชอบไทป์ตลค ชอบตอนที่ตัวเองอ่านแล้วแบบ บันนี่ แกตายเหอะ 5555 - Human Acts ผลของสงครามมันสร้างความร้าวรานใจและทิ้งผลกระทบให้ใครได้มากแค่ไหนก็ต้องอ่านนี่แหละ - The wedding people ชอบแมสเสจของเล่ม ชอบความเรียลของตอนจบและบทสนทนาในเรื่อง
comment in response to post
ฝั่ง Drew มันจะมีความ teenager doing something weird อยู่ แนวคิดเหมือนพวกตลควัยทีนทั้งหลายแหละ ตอนแรกว่าคงไม่ชอบเท่าไหร่แล้วแต่ twist ตอนท้ายเรื่องทำได้ดี เลยให้คะแนนเพิ่มมานิดนึง ดีที่เล่มไม่หนามากอะไร อ่านไม่นานก็จบ
comment in response to post
ขณะเดียวกัน Drew ก็กำลังตามหาแฟนสาวที่หายตัวไป ในขณะที่คนอื่นเชื่อว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเธอและเขาเป็นคนทำ แต่ Drew ก็ยังเดินหน้าตามหาเธอ จนกระทั่งได้พบกับเงื่อนงำบางอย่างที่นำพาเขาตรงดิ่งไปทางคู่พ่อลูกประหลาดในเมืองเล็ก
comment in response to post
ตำรวจขอเอกสารเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพ่อลูกจริงๆ หลังตรวจสอบประมาณหนึ่งก็ให้กลับไปด้วยกัน แต่ Mary ไม่คุ้นกับพ่อคนนี้เลย แถมดูเหมือนอีกฝ่ายยังไม่รู้เรื่องอาการแพ้หรือไซส์เสื้อผ้าที่เธอต้องใส่อีก ไหนจะความ overprotective บางอย่างที่ทำให้อึดอัด
comment in response to post
แต่เรื่องที่ดันชอบดันเป็นเทพนิยายสยองขวัญที่แทรกมาในเรื่องกับดีไซน์สัตว์ประหลาดที่จะมีเป็นภาพวาดแทรกมาตลอด ให้อารมณ์แบบพวกความป่าลึกลับ creepy ตำนานสัตว์ประหลาดหัวแพะอะไรเหล่านั้น ภาษาเขียนดี บรรยายเย็นๆ เน้นอ่านเพลินๆ จบค่อนข้างปลายเปิดและทื่อๆ ไม่รู้จะมีเล่มต่อรึเปล่า
comment in response to post
ความรักของสองคนนี้ส่วนตัวมองว่าเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน เกรงกลัว และหมกมุ่น บางครั้งอ่านแล้วก็อึดอัดเพราะความ insecure หลายๆ อย่างของทั้งคู่ที่ไม่หันหน้าคุยกันดีๆ ความจริงเห็นฝั่งตปทอ่านกันเยอะ แต่เอาเข้าจริง plot hole ก็เยอะอยู่ อย่างเช่นสัตว์ประหลาดอาละวาดขนาดนั้นแต่ทำไมไม่มีใครสังเกตเห็นเลยนอกจากตัวเอกสองคน
comment in response to post
คู่หูเพื่อนรักนี้เข้าตำราคนหนึ่งเป็นตัวปัญหา อีกคนก็เด็กช่างหงอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้ำกึ่งระหว่างเพื่อนรักกับสิ่งที่อาจเป็นมากกว่านั้น แต่มิตรภาพนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นมืดมนหลังพวกเขาต้องกระเทาะเปลือกความลับดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังและพยายามหยุดยั้งก่อนที่มันจะลุกลาม