rkmsuiren.bsky.social
守月粋蓮 | Morizuki Suiren 🌕🪷 | Tomoyasu High School | 1-B | Astronomy Club🌌🔭 | ทัก โค โรล 24/7 #RKM_Commu
🥀 ลูกสาวนักแสดงที่เสียไปแล้ว
☕️ Part-time Mankai Cafe: SAT/SUN/MON
🌗 Doc: https://bit.ly/3z3Mh5U
🌓Relationship: https://bit.ly/3Ygr6Gn
442 posts
156 followers
156 following
Getting Started
Active Commenter
comment in response to
post
"ถ้าเจอในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สีคงดูกลมกลืนกันแน่ๆ ใบไม้คงจะมีสีส้มคล้ายๆกับนกโรบิน.."
"แต่ถ้าเป็นฤดูหนาว สีของนกคงจะโดดเด่นขึ้นมาพออยู่ท่ามกลางหิมะ" เอ่ยขณะที่มองรูปไปด้วย
"แต่ทำไมถึงเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์มาสกันนะ?"
comment in response to
post
"อ้า ม ไม่เป็นไรค่ะ" เลิ่กลั่กไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะรับคำขอบคุณนั้นได้หรือไม่
"ฉันเองก็เคย.. ต้องรับมือกับความสูญเสียเหมือนกัน.. จนถึงตอนนี้ก็ไม่คิดว่าตัวเองจัดการได้ดีเท่าไหร่" เธอยิ้มบางๆพลางหลุบตาลง
"..ฉันอาจ..ไม่ใช่เพื่อนที่คุณวางใจด้วย หรือช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ฉันก็ไม่อยากให้คุณแบกรับความเจ็บปวดนั้นด้วยตัวคนเดียว..น่ะค่ะ"
"ขอโทษที่ฉันถามอะไรไม่ดีออกไปด้วยนะคะ"
comment in response to
post
"นิชิโนยะซังก็มีสิ่งที่อยากจะเปลี่ยนแปลงเหมือนกันสินะคะ"
"ฉันคิดว่าปีหน้าก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง บางทีซานต้าอาจจะตอบรับคำขอของเราแล้วช่วยอยู่ก็ได้ค่ะ"
"เอาไว้เรามาคุยกันอีกครั้งก็ได้ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ฉันเองก็คิดว่าตัวฉันก็คงจะเปลี่ยนไปเหมือนกัน.." เธอเงยหน้า มองท้องฟ้าสีน้ำเงินประดับด้วยแสงไฟ
"ฉันอาจจะรู้จักเฉดสีที่มากขึ้นอย่างที่คุณว่าก็ได้ค่ะ"
comment in response to
post
อ่านแชทแล้วก็เงยหน้ามองซ้ายมองขวา ตาโตขึ้นนิดนึงพอเห็นคนที่นัดพอดี แถมยังใส่ชุดที่เลือกให้ด้วย
"คาวาอาริซัง!" โบกมือให้ทั้งรอยยิ้ม พออีกฝ่ายเดินมาก็โค้งให้
"สวัสดีปีใหม่นะคะ! อะ ใส่ชุดนี้มาจริงๆด้วย" ทักเรื่องชุดก่อนเลย
"ดีใจที่ชอบนะคะ!"
(ส่วนซุยเรนใส่ชุดประมาณนี้‐)
comment in response to
post
"งั้น..คุณมาที่หอพักของฉันก็ได้ค่ะ ฉันอยู่อพาร์ตเม้นต์ใกล้ๆกับศาลเจ้าคาเซะคาวะ เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นให้อีกทีก็ได้ค่ะ" สีหน้าดูสดใสขึ้นอย่างชัดเจน ดูออกว่าดีใจที่จะมีเพื่อนมาบ้าน—
"ถ้าเป็น.. ช่วงวันหยุดหลังฉันเลิกงาน..ได้ไหมคะ?"
comment in response to
post
"นกที่มีขนสีส้มอมแดง.." เอ่ยก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเสิร์ชดูรูป
"อะ! น่ารักจัง! สีส้มดูเด่นมากๆจริงๆด้วยค่ะ ดูเหมาะกับคุณด้วย" ยิ้มพลางเลื่อนดูรูปไปเรื่อยๆ
"เคยเจอที่ไหนหรอคะ?"
comment in response to
post
"เอ๋!? ที่ซาลอนหรอคะ" ท่าทางดูสนใจขึ้นมา
"คุณเกรซชอบทำผมด้วยสินะคะ อะ แต่เจ้าของร้านยังไม่ได้ให้ช่วยนอกจากสระผมสินะคะ.." เธอทำหน้าคิดสักพัก
"..ที่จริง ฉันมีที่หนีบผม กับเครื่องดัดลอนอยู่ 2-3 แบบ.."
"คุณเกรซลองกับฉันก็ได้นะคะ" เงยหน้าพร้อมกับยิ้มให้ เชื่อใจสุดๆ—
comment in response to
post
(เดี๋ยวเราโควทไปเปิดก็ได้ค่ะ!💕)
comment in response to
post
"..ฉันจำที่เราเคยคุยกัน เรื่องภาพ Blue period ของปิกัสโซ่ ในตอนนั้น ฉันรู้สึกได้ว่าสีฟ้าของเขา..คงคล้ายกับสีฟ้าแห่งความกลัวที่เรามีน่ะค่ะ"
"ถึงจะแก้ไขความจริงที่การสูญเสียมันน่ากลัวไม่ได้ ..แต่ก็ทำให้รู้ว่า ไม่ได้มีแค่เราที่เผชิญหน้ากับความกลัวแบบนี้อยู่คนเดียว"
"การรับรู้ว่ามีผู้คนที่เจอแบบนี้เป็นเพื่อน อาจจะ..ช่วยให้ก้าวต่อไปได้ในระดับนึง ละมั้งคะ?"
comment in response to
post
"..การทำตัวให้ชินกับความสูญเสียไม่ใช่เรื่องง่าย.. สำหรับฉันแล้ว ฉันเองก็จัดการความกลัวในเรื่องนั้นไม่ได้เลยค่ะ"
"การตื่นมาโดยที่รู้ว่าไม่มีสิ่งสำคัญอยู่กับเราอีก แล้วก้าวเท้าเริ่มแต่ละวันด้วยความรู้สึกนั้นมันยากลำบากจริงๆ
..แค่พยุงตัวลุกขึ้นมาได้ ก็สุดยอดมากแล้วค่ะ"
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง พลางคลี่ยิ้มบางๆ
+
comment in response to
post
"ม ไม่ใช่นะคะ คือว่า.." เธอเอ่ยทั้งน้ำเสียงปนความสั่นเครือ ค่อยๆลดมือลงกุมไว้ที่ตักเหมือนเดิม ขณะที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
"ฉันไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด ..ว่าคุณทำให้ฉันร้องไห้ ไม่อยากให้คุณไม่สบายใจน่ะค่ะ.."
ถึงจะรู้ว่าพูดไปอาจไม่ได้ช่วยอะไร แต่เธอเองก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจไปในทิศทางนั้น
พอสงบใจได้ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใต้ตายังมีรอยแดงอยู่เล็กน้อย ดวงตาไหววูบไปครู่หนึ่ง
+
comment in response to
post
เธอเงยหน้าเมื่อได้ยินคำถาม เลิกคิ้วก่อนจะเอียงคอนึก
"สำหรับฉัน.. สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปกลับมีเยอะยิ่งกว่าอีกค่ะ" ยกยิ้มแห้ง
"ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นน่ะค่ะ.. มีเรื่องที่เปลี่ยนไปเยอะมากๆ รวมถึงตัวฉันเองด้วย ได้ย้ายมาอยู่เมืองใหม่ เข้าโรงเรียนใหม่ เจอกับคนใหม่ๆ.."
"..ในปีหน้า ที่ตรงนี้ก็คงจะเปลี่ยนไปอีกไม่มากก็น้อย"
"นิชิโนยะซังล่ะคะ?"
comment in response to
post
ดวงตาสองสีมองภาพในสมุดของอีกฝ่ายที่พลิกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนกับแอนิเมชั่นขนาดช้า เห็นถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป และอารมณ์ที่แตกต่างในแต่ละภาพ
"แบบนี้ นิชิโนยะเหมือนเป็นนักประวัติศาสตร์เลยค่ะ" คลี่ยิ้มบางๆ ขณะที่สำรวจสีฟ้าที่แตกต่างในสมุดเล่มนั้น
ซุยเรนรู้จักสีฟ้าเพียงไม่กี่แบบ การเห็นสีโทนเดียวกันที่มีทั้งมืด-สว่างและการจับคู่สีที่หลากหลายก็ยิ่งทำให้ตื่นตาตื่นใจ
"สวยจัง.." พึมพำออกมาเบาๆ
+
comment in response to
post
"แล้วเจอกันนะคะคาวาอาริซัง! จะรอเห็นแฟชั่นของคุณเลยค่ะ!" ยิ้มให้พลางโบกมือเบาๆก่อนจะเดินออกจากร้านไป
(มาจบรูทให้แล้วค่ะ!✨️ เราจะโรลไปตำโมจิกันหรือโคไว้ดีคะๆๆ)
comment in response to
post
"!? ค ค่ะ!" พออีกฝ่ายบอกจะเปลี่ยนเรื่องก็กระพริบตาปริบ มองถ้วยใส่ของหวานที่อีกฝ่ายกินจนหมดแล้ว
เรื่องคุยเมื่อกี้ จะทำให้ทานได้ไม่อร่อยรึเปล่านะ💦
จู่ๆก็ผงกหัวงกๆเป็นการขอโทษโดยไม่บอกไม่กล่าว(...)
"ถ้าแบบนั้น.." เกริ่นขึ้นมาเหมือนพยายามคิดเรื่องใหม่
"คุณเกรซ มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษรึเปล่าคะ? อาหาร หรือว่าเพลง หรือว่างานอดิเรกก็ได้ค่ะ"
comment in response to
post
"!? อ๋า! ขอโทษค่ะ คือ.." เธอรีบก้มหน้าลง ใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออก กังวลว่าอีกฝ่ายที่เห็นใบหน้าเธอตอนนี้ต้องตกใจเป็นแน่ หรือไม่ก็จะโดนเข้าใจผิดเอา
แต่น้ำตาก็ไม่หยุดไหลสักที
"คือว่า.."
ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดออกไปยังไงดี จึงรีบยกมือบังหน้าไว้ก่อน
comment in response to
post
—!?
คำตอบที่ได้ยินทำให้เธอเบิกตากว้าง ด้วยความที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยคำนั้นออกมา
รู้สึกราวกับมีบางๆอย่างกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างจัง ขณะที่เธอรับฟังอีกฝ่ายเอ่ยจนจบ ดวงตาสีกลีบบัวมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป
"นั่นมัน..เหมือนกับ.."
หยดน้ำกลิ้งออกจากตา หยดลงบนหลังมือที่กุมไว้บนหน้าตัก
"..เอ๊ะ?"
เธอยกมือแตะที่แก้ม เหมือนไม่รู้ตัวว่าร้องไห้ออกมาตอนไหน
+
comment in response to
post
รับฟังขณะที่พยักหน้ารับ พลางเอ่ยพึมพำเบาๆ
"เหมาะกับนิชิโนยะซังจริงๆด้วย.."
เธอหันไปมองคนข้างตัว ก่อนจะเลื่อนสายตามาที่สมุดวาดภาพในมือของเขา
"พอคิดว่านิชิโนยะซังวาดมุมตรงนี้ในทุกๆปี สถานที่ตรงนี้ก็ดูมีความหมายขึ้นมาเลยค่ะ เพราะเหมือนถูกหยุดเวลาของทุกๆปีไว้ในสมุดของนิชิโนยะซัง ในสีสันที่แตกต่างกันด้วย"
"..เฉดของสีฟ้าที่ใช้ในแต่ละปีก็คงไม่เหมือนกัน มีมากมายจริงๆด้วยสินะคะ"
comment in response to
post
“ได้เลยค่ะ!” ยิ้มรับอีกฝ่ายทั้งท่าทางกระตือรือร้นสุดๆ!
“อะ! โมริสึกิ ซุยเรนค่ะ” แนะนำตัวกลับไป พลางคิดว่าชื่อของอีกฝ่ายน่ารักจัง แถมยังเหมาะมากๆด้วย
“อุซางิซัง ..ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ฉันก็ชอบกระต่ายมากๆเลย”
“ครั้งแรกที่เห็น โบผูกผมของอุซางิซังเหมือนหูกระต่ายเลยค่ะ น่ารักมากๆเลย”
comment in response to
post
“ฉันไม่อยากให้คุณมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยค่ะ”
“ฉันไม่คิดว่า..ตัวเองจะมีคำตอบที่ดีให้คุณเกรซได้เลยนี่สิคะ” เธอเอ่ยเบาๆ
comment in response to
post
(กลับมาแล้วค่ะ!)
“เอ๋??” หันมองตาปริบๆ ที่จู่ๆอีกฝ่ายให้เธอเป็นคนเลือกเสียอย่างนั้น
“แต่ แต่ว่าฉันไม่มั่นใจว่าน้องของคาเมะทานิซังชอบอะไร..หรือมีสไตล์แบบไหนน่ะค่ะ” น้ำเสียงดูแฝงความกังวลเอาไว้ พร้อมกับดวงตาที่มองของบนชั้นอย่างพิจารณา
“..ฉันแค่คิดว่า ถ้าซื้ออะไรที่เขาได้ใช้บ่อยๆคงดี..”
“คาเมะทานิซังพอจะให้ข้อมูลเพิ่มสักหน่อยได้ไหมคะ?”
comment in response to
post
เธอยกยิ้มกว้าง ก่อนจะพยักหน้ารับ
"ตกลงค่ะ! ถ้าใกล้จะถึงวันแล้ว ฉันจะทักไปหาคาวาอาริซังอีกรอบนะคะ"
ท่าทางตื่นเต้นน่าดู แววตาดูสดใสขึ้นมาเลย เธอเปิดโทรศัพท์ บันทึกรายการไว้ในปฏิทินพร้อมดูเวลาไปด้วย
"อะ! ฉันต้องรีบไปเข้ากะแล้วค่ะ💦"
comment in response to
post
"ชอบสังเกตจุดเล็กจุดน้อยหรอคะ" เธอมองตาปริบๆ เห็นท่าทางอีกฝ่ายมองเจ้านกอ้วนก็ยิ้มบางๆ
"ถ้างั้น จากที่ลองสังเกตมา มีแบบไหนที่ชอบเป็นพิเศษรึเปล่าคะ?"
"ปกติฉันไม่ได้ลองสังเกตสิ่งรอบข้างมากนักน่ะค่ะ ยกเว้นกับนกตัวนี้ที่ดูเด่นกว่าปกติไปหน่อย" ยิ้มแห้งๆ
comment in response to
post
"ฉันรู้สึกว่า การทำตัวให้คุ้นชินกับความกลัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ฉันมีความกลัวหลายอย่างที่ตัวเองยังชินกับมันไม่ได้ ฉันก็เลย..คิดว่านิชิโนยะซังเก่งมากๆ"
"ถามได้รึเปล่าคะ..? เรื่องที่คุณกลัว มากกว่าความสูงน่ะค่ะ"
"อะ แต่ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ"
comment in response to
post
คุ้นชินมากขึ้น...
เธอรับฟังขณะที่มองใบหน้าของอีกฝ่าย ภายในหัวเองก็คิดตามไปด้วย
จะพูดว่าเข้าใจความรู้สึกนั้น เธอก็พูดออกมาไม่ได้เต็มปาก เธอไม่กล้าจะตัดสินว่าประสบการณ์ของใครเหมือนกับของใครได้
"ฉันเองก็เคยมีสิ่งที่กลัวมากๆอยู่ แต่พอเจอเหตุการณ์บางอย่างที่หนักกว่า ทำให้รู้สึกว่าความกลัวที่เคยเจอเป็นเรื่องเล็กน้อยลงไป ..แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี"
+
comment in response to
post
(ขอโทษที่หายไปนานนะคะ กลับมาแล้วค่ะ TT)
"เหมือนเป็น.. สถานที่พักพิงใจของผู้รักสันโดษนี่เองสินะคะ"
"ทำให้ฉันนึกถึง ตอนที่ฉันมีโอกาสได้ไปงานเลี้ยงหลายๆครั้งเมื่อตอนเด็กๆอยู่เหมือนกันค่ะ"
เธอหัวเราะเบาๆ
"เมื่อก่อน ฉันเคยไปงานเลี้ยงกับคุณแม่ แต่ฉันกลัวผู้คนมากๆ เลยเอาแต่หามุมเงียบๆในงาน หรือหลบอยู่ข้างหลังคุณแม่น่ะค่ะ"
"คนที่มาเลือกอยู่ตรงมุมนี้ คงคิดคล้ายๆกันล่ะมั้งนะ.."
comment in response to
post
"ฉันแค่รู้สึกว่า.. บางทีก็ไม่รู้ว่าทำแบบนั้นแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาน่ะค่ะ ..มีคนพูดกับฉันในทำนองนั้นเยอะอยู่เหมือนกัน"
"นอกจากคุณแม่ ฉันก็ไม่มีใครให้ยึดเหนี่ยวเอาไว้อีกแล้ว จะว่ายังไงดี ฉันตั้งเป้าหมายมากมายว่าอยากทำอะไรก็ได้ให้ท่านมีความสุข" เธอเอ่ยขณะที่มองรูปบนผนัง ก่อนจะหลุบตาลง
"...แต่ตอนนี้ ท่านไม่อยู่แล้วน่ะค่ะ"
"สิ่งที่ฉันทำได้คงมีแค่เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าจะก้าวต่อไปยังไงดี"
comment in response to
post
แววตายังฉายความกังวลอยู่บ้าง แต่ก็พยักหน้ารับพลางเดินเข้าไปในร้าน เกรงว่าจะพูดอะไรให้ไม่สบายใจเข้า
เธอกวาดสายตามองรอบๆ สักพัก
"คาเมะทานิซัง มีของที่จะซื้อไปฝากคนที่บ้านไว้ในใจรึเปล่าคะ?"
"ถ้าอยู่มัธยมต้น.. พวกสมุด หรือว่าปากกาก็น่าจะได้ใช้.." เอ่ยพึมพำเบาๆ
comment in response to
post
"เห เป็นครอบครัวใหญ่เหมือนกันนะคะ..." เอ่ยรับพลางสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายที่ดูเปลี่ยนไป กับดวงตาที่ว่างเปล่าผิดไปจากเมื่อครู่
"คาเมะทานิซัง?"
"คือฉัน.. ถามอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจรึเปล่าคะ💦" ทางนี้สีหน้าเลยฉายความกังวลออกมาด้วย ขณะที่ในหัวเริ่มคิดอะไรสะระตะ
comment in response to
post
ถอนหายใจอย่างโล่งขึ้นมาหน่อย
"..ที่คิดว่าคุณนกอาจจะป่วย น่าจะไม่ใช่แล้วล่ะมั้งคะ.." หันไปมองนกตัวเดิมที่อ้าปากรอหนมปัง—
"ปกติคุณคุ้นเคยกับนกหรอคะ? เคยเลี้ยงมาก่อนหรอ?"
comment in response to
post
"ด้วยอาชีพการงานด้วยน่ะค่ะ ช่วงตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถม คุณแม่ก็รับงานแสดงค่อนข้างเยอะเหมือนกัน"
ได้ยินคำถามก็หยุดคิดไป แต่ก็เริ่มมุ่นคิ้วอยู่นิดนึง
"..ชอบหรือไม่ชอบ..."
..แปลกจัง
....น่าจะตอบได้นี่นา?
"..ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงตอบไม่ได้ จริงๆควรจะตอบว่าชอบสินะคะ" เธอยกยิ้มแห้ง
"ฉันรู้สึกว่าต้องทำแบบนั้น เพราะว่าไม่อยากให้ร่องรอยของคุณแม่หายไป ไม่ว่ายังไงก็ตามน่ะค่ะ"
comment in response to
post
ได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยประโยคนั้น เธอเบิกตาเล็กน้อย
"สร้างประสบการณ์หรอคะ.. จริงด้วย.."
"ถ้าอย่างนั้น.. ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้ฉันไปด้วยนะคะ" ยิ้มบางๆให้
"เอ.. เป็นประสบการณ์กับคาวาอาริซังครั้งแรก?"
comment in response to
post
"อ๋า แต่ฉันเองก็พูดเรื่องนี้ได้ไม่เต็มปากนัก เพราะฉันเองก็.. เป็นคนขี้กลัวอยู่เหมือนกันค่ะ" เธอเอ่ยพลางยกยิ้มแห้งๆ
"..แต่ที่ฉันพยายามจะบอกก็คือ.. นิชิโนยะซังเข้มแข็งที่เรียนรู้ความกลัวของตัวเองแล้วจัดการกับมันได้น่ะค่ะ ..ถึงอาจจะไม่ 100% แต่นั่นก็น่าชื่นชมแล้วค่ะ"
comment in response to
post
"เรื่องที่กลัว.. ยิ่งกว่าที่สูงหรอคะ?" เธอมองท่าทางคนในกระเช้าเดียวกัน สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไป จึงเก็บประโยคของเขามาขบคิด
"แต่การค้นพบว่ามีสิ่งที่น่ากลัวกว่า อาจจะเป็นการที่เรายอมรับความกลัวที่เคยมีก่อนหน้าได้ในระดับนึงแล้วก็ได้ค่ะ ..จะว่ายังไงดี.." เม้มปากเหมือนคิดเรียบเรียงคำพูดอยู่
"..เหมือนกับการเรียนรู้ และเติบโตขึ้นในระดับนึงล่ะมั้งคะ"
+
comment in response to
post
"ฉันว่าเป็นมุมที่น่าสนใจนะคะ" จนคิดไตร่ตรองแล้วก็หันไปยิ้มให้อีกฝ่าย
"เพราะความสงบก็เป็นความสุขรูปแบบนึง เข้ากับช่วงเทศกาลที่ทุกคนมีความสุขนี่นะ"
comment in response to
post
"จริงด้วย.. ฉันไม่เคยนึกถึงมุมนั้นมาก่อนเลยค่ะ ท่ามกลางเทศกาลที่สดใส ในมุมที่สงบคงมีบรรยากาศแบบนั้นสินะคะ"
"พอคุณบอกว่าเหมือนกับโลกค่อยๆหมุนช้าลงก็เริ่มเข้าใจขึ้นมา ..แต่ว่า.."
"ที่วาดบรรยากาศมุมนั้นดูสงบเงียบ เหมือนเป็นการวาดจากมุมของคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางเทศกาลแล้วมองเข้าไปในมุมเงียบๆตรงนั้นเลย" เธอเอ่ยพึมพำขณะที่ลองคิดตามไปด้วย
+
comment in response to
post
"โล่งอกไปทีที่คุณชอบ ฉันอยากทำแบบนี้มานานแล้วน่ะค่ะ" ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายต้องลบออกในภายหลัง แต่เธอกลับไม่รู้สึกเสียดายเลย
"ม ไม่เป็นไรเลยค่ะเรื่องนั้น เป็นทางฉันที่เอาแต่ใจ ไม่รู้ว่าจะเป็นการล้ำเสียคุณมากไปรึเปล่า ..อาซานะซังไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ" ยิ้มแห้งๆขณะรับกระจกคืน
พออีกฝ่ายเสนอจะช่วยเก็บเลยเลิ่กลั่กนิดหน่อยอย่างเกรงใจ
"อ๋า! อาซานะซังรีบอยู่ไม่ใช่หรอคะ เดี๋ยวฉันเก็บเองก็ได้ค่ะ💦"
comment in response to
post
"อ อ๋า คือว่า.." โดนถามตรงๆเลยทำหน้าตาตื่นไปนิดนึง
"ฉันคิดว่า คาวาอาริซังอาจจะมีคนที่อยากชวนมากกว่าจะเป็นฉัน..น่ะค่ะ"
"ฉะ ฉันคุยไม่ค่อยเก่ง กลัวว่าจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อ.. อ๋า แต่ว่าฉันยินดีมากๆที่จะไปกับคาวาอาริซังนะคะ! จริงๆนะคะ!" ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน ตะกุกตะกักไปเรื่อยๆ
อธิบายอะไรดูย้อนแย้งรึเปล่านะ ทำยังไงดี💦
"ค คือว่า..💦💦" จะขยายความต่อ แต่ก็พูดต่อไม่ถูกอีก
comment in response to
post
จังหวะที่สบตาก็ชะงักไปนิดนึง ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือ
"อ๋า! ขอโทษค่ะ! มะ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?" ยังมองอย่างเป็นห่วงอยู่
comment in response to
post
"ไม่ใช่หรอกค่ะ.. ฉันไม่รู้จักร้านนี้ตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งจะมารู้หลังจากมีคนแนะนำมาให้เมื่อตอนเปิดเทอมใหม่ๆ พอเข้ามาในร้านถึงได้เห็นว่ามีรูปคุณแม่ติดอยู่ด้วยนี่แหละค่ะ"
"...จะว่ายังไงดี เหมือนฉันกำลังตามรอยคุณแม่ในอดีตยังไงก็ไม่รู้เลยค่ะ" เอ่ยพลางตักซุปเข้าปาก
ที่รูปมีลายเซ็นอยู่ด้วย เขียนด้วยมาร์กเกอร์เป็นตัวคันจิ อ่านว่า 'โมริสึกิ ยูรินะ' มีดอกลิลลี่วาดข้างๆลายเซ็นต์ด้วย
comment in response to
post
"จริงด้วยค่ะ มีเมนูน่ารักๆออกมาเต็มไปหมดเลย งั้นหลังจากเราไปร้านเสื้อเสร็จแล้ว ลองหาเค้กขอนไม้สักร้านกันดีไหมคะ?" ก็เลยลองชวนต่อซะเลย
"เอ.. ขนมที่ฉันชอบหรอคะ.." เอ่ยพลางเงยหน้าคิดสักพัก
"พุดดิ้งค่ะ ดูเรียบง่ายไปรึเปล่านะ? อ๋า แต่ช่วยคริสต์มาสก็เห็นว่ามีพุดดิ้งช็อกโกแลตน่ารักๆออกมาด้วยล่ะค่ะ!"
comment in response to
post
"ถ้าคาเมะทานิซังว่าแบบนั้น งั้นก็ตกลงค่ะ" ยิ้มให้ จำได้ว่ามีร้านเครื่องเขียนอยู่ไม่ไกลพอดี
ได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงครอบครัวก็เลิกคิ้วเล็กน้อย
"น้องชายกับน้องสาวหรอคะ? คาเมะทานิซังเป็นพี่ใหญ่นี่เอง อายุห่างกันเยอะรึเปล่าคะ?"
comment in response to
post
"...แต่ต้องไม่ใช่คนกลัวความสูงด้วยสินะคะ" เธอหัวเราะเบาๆ
"นิชิโนยะซังไม่กลัวที่สูงสินะคะ? มีอะไรที่กลัวบ้างไหม?"
comment in response to
post
"เส้นสายสีทองของ The Kiss หรอคะ.. จริงด้วย" เธอมองแสงไฟที่เรียงตัวระยิบระยับด้านล่าง ดูเป็นกลางคืนที่สว่างไสวกว่าปกติ คงเป็นเพราะช่วงเทศกาลมีไฟประดับตามเมืองไปด้วย
"..เพราะเห็นภาพจากมุมแบบนี้รึเปล่านะคะ คู่รักเลยนิยมมาเดทกันบนชิงช้าสวรรค์ เห็นวิวสวยๆจากไกลๆ ความรู้สึกเหมือนโลกของตัวเองถูกแยกออกมาจากเมืองตรงนั้น แต่ก็มีเส้นสายบางอย่างเชื่อมกันอยู่"
+