kmiraira.bsky.social
คิโนะชิตะ ไรระ ห้อง 1-B ชมรมศิลปะ
木下 来依良
KMI Commu
(ตอบช้าค่ะ มาๆหายๆบ้าง)
Story: #KMIraira_story
https://bit.ly/3A7P7Y4
116 posts
630 followers
659 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to
post
เรื่องที่พูดย่อยง่ายพอสำหรับสมองเธอ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น
”หนู…ขอคิดดูอีกทีนะคะ“
ไรระรู้ว่าตัวเองได้ประโยชน์ แต่ในมุมมองคนที่ต้องจ่ายเงินคงไม่ได้ง่ายดาย
เธอก็ยังเป็นภาระของใครสักคนอยู่วันยันค่ำ
คิดได้แบบนั้นก็ผงกศีรษะเร็วๆ ก้าวถอยหลังราวกับถูกเรื่องเมื่อครู่ตบหน้าจนมึน ลืมเรื่องกะทำงานที่ขอตอนแรกไปแล้วด้วยซ้ำ
“ไปก่อนนะคะ อายานามิซัง เอ่อ คุณเจ้าของร้าน…”
comment in response to
post
“ทำแบบนั้นแล้ว อายานามิซังจะได้อะไรกลับคืนไปหรือคะ?”
ไรระกะพริบตา แขนเสื้อเปียกซับหัวตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่นัยน์ตากลมแดงจะมองสบตาอย่างไม่เข้าใจ
“หนูทำงานแลกกับเงินนะคะ อายานามิซัง“
เธอแค่พูดไปตามที่คิดในใจ แต่กลับฟังดูเป็นประโยคย้ำเตือนสถานะกลายๆ
comment in response to
post
“วันนี้ได้หยุดค่ะ หนูคิดว่าจะกลับไปทำความสะอาดห้อง“
เธอมองอาจารย์ตรงหน้ากินอาหารบนโต๊ะ รู้สึกอัศจรรย์ใจกับปริมาณที่อีกฝ่ายกินเข้าไป
“อาจารย์ทานเยอะแต่ว่ารูปร่างสมส่วนดีมากเลยนะคะ”
ความคิดเห็นอย่างใสซื่อที่ติดคำวิจารณ์เชิงศิลปะเข้าไปด้วยนิดหน่อย
comment in response to
post
เธอใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าตัวเอง ไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่แค่รู้สึกว่าความเศร้าเอ่อล้นออกมาทางนัยน์ตาไม่หยุด
“บางทีถ้าหนูจำอะไรได้ก็คงดีกว่านี้…“ ไรระพักสูดจมูกฟืด เธอดูใจเย็นเป็นปกติแต่แค่มีน้ำตารื้นขอบตาแดงก่ำ
”ถ้าหนูไปจากที่นี่แล้วเขากลับมาหาหนูไม่เจอล่ะคะ“
comment in response to
post
สีขาวกับสีดำ ดูเหมือนนางฟ้ากับปีศาจกำลังเจรจากันอยู่ แต่ถ้อยคำพวกนั้นไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด
“‘ถ้าไม่กลับมา’ …หมายความว่ายังไงคะ?”
อาจเป็นครั้งแรกที่ไรระกังวลเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงาน คุณอาคนนั้นเป็นใครก็ไม่รู้ แต่พอนึกภาพว่าจะไม่มีจดหมายส่งมาอีกแล้วก็รู้สึกมวนท้อง
สีขาวกับสีดำตรงหน้าเลือนผสมเข้าหากันเป็นสีเทา เธอกะพริบตาไล่ความขุ่นมัว แล้วก้อนเมฆสีครึ้มก็หยดลงมาเป็นฝนอาบแก้ม
comment in response to
post
ตาสีแดงหลุบลงมองกระเป๋าในอ้อมแขนอีก
”แต่หนูจำสูตรอาหารได้ แล้วก็…จำชื่อคนที่เคยวาดได้หมดเลยนะคะ“
สุ้มเสียงจริงจังขึ้นมาแม้จะไม่ยอมสบตา ”รับรองว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหากับการทำงานค่ะ“
comment in response to
post
คำยืนยันหนักแน่นพอที่จะเชื่อใจ ไรระพยักหน้าหงึกหงัก
”คือว่า หนูเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ไปน่ะค่ะ“
เธอพูดต่อ ติดขัดเล็กน้อยเพราะข้อมูลไม่เพียงพอ
”พอรู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่เมืองนี้แล้ว เอ่อ หนูจำเรื่องพ่อกับแม่ไม่ได้ มีแค่จดหมายของคุณอาคนนั้นบอกให้ไปโรงเรียน …อ้อ แล้วก็เงินที่ส่งมาให้ทุกเดือนค่ะ“
+
comment in response to
post
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอรู้สึกคุ้นเคยกับรอยยิ้มเช่นนั้นมากกว่า ถึงจะพูดเรื่องเข้าใจยากไปหน่อยก็เถอะ
“หนูไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรหรอกค่ะ” ไรระส่ายหน้า ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรในเมื่อไม่มีอะไรให้กล่าวถึงตั้งแต่ต้น
“ในจดหมายเขาแทนตัวเองว่าลุง? อา? คงจะเป็นพี่หรือน้องของพ่อล่ะมั้งคะ แต่หนูก็ไม่รู้จักอยู่ดีเพราะว่า… เอ่อ…”
หันไปทางอีกคนคล้ายขอคำยืนยัน
“อายานามิซัง จะไม่ไล่หนูออกใช่ไหมคะ?”
comment in response to
post
เธอกินแซนวิช สปาเกตตี้อีกนิด โรลเค้กอีกหน่อย เยอะมากพอที่จะทำให้เด็กสาวกินน้อยรู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมาแล้ว
ไรระรวบช้อนส้อมลง พูด ’ขอบคุณสำหรับอาหาร‘ เบาๆ
“หนูอิ่มแล้วค่ะ” เธอมองอาหารที่เหลือบนโต๊ะ เหลือบมองอาจารย์ฝั่งตรงข้าม รู้สึกผิดแสดงออกทางน้ำเสียง “ขอโทษนะคะที่กินได้นิดเดียว อาจารย์กินต่อไหวรึเปล่าคะ…”
comment in response to
post
“เดือนหน้าก็คงต้องเป็นแบบนั้นค่ะ”
“…”
ไรระเงียบลงอีกเพราะไม่รู้เจตนาอีกฝ่าย กอดกระเป๋าแน่นอีกด้วยท่าทางสับสนนิดหน่อย“หรือหนูไม่ควรขอเพิ่มกะทำงาน…รึเปล่าคะ? ขอโทษนะคะ“
เธอคิดอะไรกว้างไกลกว่านั้นไม่ออก แค่สัมผัสได้ว่าเจ้าของร้านดูไม่เห็นด้วยเอาเสียเลย
comment in response to
post
“หนูอยู่คนเดียวค่ะ ผู้ปกครองของหนูบอกว่าเขาทำงานอยู่ไกลมากๆ”
ไม่ใช่ญาติ พ่อ แม่ แต่เป็นแค่ ‘ผู้ปกครอง’
ไรระนิ่งคิดถึงเรื่องเดือนหน้า เดือนหน้าหน้า แล้วก็สรุปเอาเองด้วยน้ำเสียงเหมือนเป็นเรื่องเล็กเสียเหลือเกิน
”แต่เดือนก่อนหนูก็หาค่าห้องเองนะคะ เงินที่ส่งมาลดลงไปเยอะเลย หนูว่าเขาเองก็คงทำงานเหนื่อย เอ่อ ถ้าหนูทำงานเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยแบ่งเบาไปได้สักนิด…?“
comment in response to
post
“เรื่องนั้น…ผู้ปกครองเพิ่งส่งจดหมายมาบอกว่าเดือนนี้กับเดือนหน้าส่งเงินมาให้ไม่ได้น่ะค่ะ“
ไรระพูดหน้าตาเฉย ดูลำบากใจเรื่องขอเพิ่มกะทำงานมากกว่าเรื่องปัญหาความขัดสนส่วนตัวเสียอีก
”เดือนนี้จ่ายค่าห้องกับค่าแก๊สไปแล้วเลยไม่มีปัญหา แต่เดือนหน้าคงไม่ไหว หนูเลยว่าจะทำงานเพิ่มอีกหน่อย“
เธอรีบพูดเหมือนกลัวโดนดุ “หนูจะไม่ซื้อสีกับแคนวาสเพิ่มแล้วด้วยค่ะ”
comment in response to
post
น้องชายนี่เอง เธอโค้งให้เล็กน้อย หวังว่าจะได้วาดรูปเขาเทียบกับคนพี่ดูสักครั้ง
แต่ก่อนจะเหม่อลอยไปไกล ไรระก็รีบพาตัวเองกลับเข้าเรื่อง การมีอยู่ของบุคคลที่สามดูไม่ได้สร้างความอึดอัดใจให้เธอเท่าไหร่
”คือ อายานามิซัง…หนูหมายถึง เอ่อ คุณเจ้าของร้าน“ เปลี่ยนคำเรียกทันทีหลังนึกได้ว่าที่นี่ไม่ได้มีอายานามิคนเดียว
”ช่วยเพิ่มกะทำงานให้หนูอีกได้มั้ยคะ…หรือจะให้ทำควบสองกะวันเดียวกันก็ได้ค่ะ”
comment in response to
post
”มาซารุซังบอกว่าเหมือนเห็นคุณอยู่แถวนี้…“
ไรระหยุดปากก่อนจะเผลอพูดธุระของตัวเองออกมา เธอถือกระเป๋าคล้ายกำลังกลับก็จริง แต่ริมแม่น้ำนี่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ทางผ่านเลยสักนิด
”อายานามิซัง…คุยธุระเสร็จแล้วหรอคะ?“
กอดกระเป๋า เหลือบมองทางคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้านิดหน่อยแล้วหลบตา เธอโกหกใครไม่เป็นเสียด้วยสิ
”ฟังดูเป็นเรื่องสำคัญกว่าเรื่องของหนูน่ะค่ะ เอ่อ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะคะ…“
comment in response to
post
เธอพยักหน้ารับ คิดในใจว่านานแล้วเหมือนกันที่ไม่ต้องเข้าครัวทำอาหารของตัวเองหรือแบ่งของเหลือจากที่ร้านกลับบ้าน
“หนูไม่เคยทานอาหารเต็มโต๊ะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ“ ไรระพูดตามที่นึก
”ตอนล้างจานคงลำบากน่าดูนะคะ“
comment in response to
post
(มาบวกคุณเจ้าของร้านค่ะ)
ในแสงสว่างที่ไม่ได้จัดจ้านัก ไรระเห็นเรือนผมสีอ่อนก่อน
“อายานามิซังคะ“
ก่อนจะเห็นสีดำเข้มด้านข้างด้วย ไรระมองคนทั้งสองแล้วนึกถึงจานสีของเธอตอนที่ผสมสียังไม่เข้ากันดีนัก
คนข้างตัวเจ้าของร้านซลอนทีมีตัวตนอยู่เลือนจางในความทรงจำของเธอ เธออาจจำเขาได้ถ้าวาดรูปเขาสักหนหนึ่ง
ธุระที่จะกล่าวถอยกลับเข้าไปในคอด้วยความเกรงใจ “เอ่อ…กำลังยุ่งอยู่สินะคะ…”
comment in response to
post
ไรระทำตาม เคี้ยวตุ้ยๆ กลืน ทำทุกอย่างโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เธอดื่มน้ำตามลงไปด้วย
“…” นิ่งไปสักพัก “อร่อยดีค่ะ”
ปฏิกิริยาทางสีหน้าดูน้อยนิดแต่ดวงตาสีแดงกะพริบถี่ๆ เธอมักทำแบบนี้เวลามีความสุข
“หนูคิดว่าคนทั่วไปทำแบบนี้เวลารีบๆ ซะอีกค่ะ คือ… หนูคิดว่าอาจารย์เองก็น่าจะมีธุระเลย เอ่อ รีบกินนิดหน่อย…”
คำสารภาพที่แท้จริงตามมาทีหลัง
comment in response to
post
“แยกกันเหรอคะ“ เธอมองสีเขียวกับสีเหลืองที่จัดไว้ด้วยกันอย่างเสียดายนิดหน่อย แต่อาจารย์อุตส่าห์พูดทั้งที… “ก็ได้ค่ะ”
“หนูคง เอ่อ กินไม่ถูกวิธี? ใช่มั้ยคะ?“
เลียบๆ เคียงๆ ถามเสียงเบาหวิว ”ขอโทษค่ะ บางทีหนูก็คิดว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะลงไปรวมกันในกระเพาะอยู่ดีน่ะค่ะ…“
comment in response to
post
“ดอกไม้เหรอคะ” ไรระไม่ค่อยวาดดอกไม้ ยกเว้นว่าจะติดมากับภาพทิวทัศน์ “ฉันชอบดอกไลแลคค่ะ รุ่นพี่เคยวาดไหมคะ?“
เธอยกมือขึ้นทำรูปทรง “ฉันเคยวาดหนนึงที่ข้างรั้วบ้านสักหลัง เป็นพุ่มๆสวยเชียวค่ะ“
“แต่ฉันวาดคนเป็นส่วนใหญ่ค่ะ”
ไม่พูดเปล่า เด็กสาวหยิบสมุดสเกตช์ขึ้นมา รูปวาดใบหน้าคนด้วยดินสอดำจำนวนมากพร้อมชื่อที่มุมซ้ายล่างกรีดผ่านนิ้ว หยุดที่ใบหน้าหนึ่ง “นี่ไงคะ ฉันเคยวาดรุ่นพี่ด้วยค่ะ”
comment in response to
post
“อย่างนั้นหรอคะ” เธอไม่รู้ว่าการลองกินอะไรเต็มโต๊ะนั้นเป็นความสนุกอย่างไร แต่ไรระก็เพิ่งเริ่มสนุกตอนที่ตักหลายอย่างมารวมกันในจานเดียว สีสันสดใสเหมือนจานสีที่เธอชอบใช้เลย
“อาจารย์เข้าคาเฟ่บ่อยหรอคะ ถึงได้รู้“ ถามตอนที่กำลังตั้งอกตั้งใจจัดเส้นแป้งสีเหลืองให้มีสัดส่วนพอดีกับโรลเค้กสีเขียว
…ใช่ เธอกินสปาเกตตี้พร้อมโรลเค้กเมล่อน
comment in response to
post
“ค่ะ” ถ้าอาจารย์ไม่ออกปากเธอคงไม่กินก่อนแน่ ดังนั้นเมื่อได้รับอนุญาต ไรระเลยลองชิมดูแล้วผงกหัว หน้านิ่งสนิทเหมือนเดิม
“อร่อยดีค่ะ” และ “หนูนึกว่าจะเหมือนสตรอว์เบอร์รีเสียอีก“
เธอกินแซนด์วิชจนหมดแล้ว กำลังจะเอื้อมมือไปทางโรลเค้กเมล่อนแต่ก็หดมือกลับมา
“เอ่อ เดี๋ยวหนูรออาจารย์กินก่อนแล้วกันค่ะ”
comment in response to
post
(อนุญาตให้ต่อยมันคืนได้ คายาโนะจัง)
comment in response to
post
ไรระแอบมองสปาเกตตีนโปลิตันที่เธอเลือกให้อาจารย์ คิดว่าหน้าตาดูไม่ค่อยแข็งแรงสมชื่อเท่าไหร่ มองเลยไปยังเครื่องดื่มสีสวยข้างๆ
“อาจารย์ชอบเครื่องดื่มรสซากุระเหรอคะ?
comment in response to
post
(กลับมาแล้วค่ะอาจารย์🥺)
เจ็ดที่นี่เยอะไปหรือ ไรระคิดในใจ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เชื่อว่าอาจารย์คงจะพูดถูกต้องแล้ว
เด็กสาวพยักหน้าตอบรับก่อนจะพูด ”ทานแล้วนะคะ“ เสียงเบา คลับแซนด์วิชถูกหยิบมากัดตามขอบมุม เธอเป็นเด็กดีที่กินผักโดยไม่เขี่ยทิ้งสักชิ้น
+
comment in response to
post
(กลับมาแล้วค่ะ🙏)
”น่าอายเหรอคะ“
“รุ่นพี่แค่กินขนม ฉันก็แค่วาดไป เท่านั้นเองนี่คะ” ไรระไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ซักไซ้ต่อ ถ้าแบบวาดรูปไม่อยากให้วาดเธอก็ไม่อยากฝืนใจใคร
เด็กสาวเปลี่ยนเรื่อง
“รุ่นพี่ชอบวาดอะไรเหรอคะ ฉันนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเห็นสมุดสเกตช์ของรุ่นพี่เลยน่ะค่ะ”
comment in response to
post
(กลับมาแล้วค่ะ)
คนที่แนะนำตัวว่าฮากะถือของไปแล้วครึ่งหนึ่ง เธอเลยทำได้แค่หยิบของอีกครึ่งแล้วตามไป
“ปกติคุณฮากะกินแค่นิดหน่อยตลอดเหรอคะ”
ไรระพูดเสียงเบาเหลือแค่กระซิบหลังเข้าร้าน เธอเดินระมัดระวัง โค้งหัวให้คนนั้นคนนี้ไปตลอดทาง
comment in response to
post
“เอ่อ ได้ค่ะ…” ยังไม่รู้เลยว่าจะหาข้าวที่ไหนกินดีในเมื่อกระเป๋าโล่งเสียขนาดนี้ แต่ไรระก็แค่รับคำ
”แต่ฉันกินน้อยอยู่แล้ว คงไม่เป็นไรค่ะ“
ก้มหัวให้นิดๆ แล้วเงยขึ้นมา “ขอบคุณนะคะ”
comment in response to
post
“ดีจังค่ะ”
ไรระโพล่งขึ้นมา เธออธิบายต่ออย่างกระตือรือร้นหลังขอสั่งนมร้อนราคาถูกไปอีกแก้วด้วย
“ฉันชอบตอนวาดของหวานค่ะ สำหรับฉันแล้วหน้าตามันดูเหมือนฝันดี” ไม่ได้หมายถึงชอบกิน
“ถ้าคราวหลังฉันได้วาดรุ่นพี่ตอนกินขนมบ้างก็น่าจะดีนะคะ”
comment in response to
post
“ใช่ค่ะ“ เธอพยักหน้ารับ นึกอยู่สักครู่แล้วค่อยบอกต่อ ”หนูกำลังคิดว่าเจ็ดที่น่าจะน้อยเกินไป หนูว่าจะทำเพิ่มอีกหน่อยค่ะ“
อาหารที่อาจารย์สั่งตามมาทีละอย่างสองอย่าง วางบนโต๊ะเล็กๆ จนแทบล้น ไรระเหลือบมองโต๊ะสลับกับคนตรงหน้า
ตอนนี้กินได้แล้วหรือยังนะ…
comment in response to
post
ไรระพยักหน้าลงแข็งขัน
“เอาอันที่รุ่นพี่เลือกดีกว่าค่ะ” เธอดูสบายใจมากกว่าที่คนออกเงินเป็นคนเลือก ประสานมือวางบนตัก “คือ เอ่อ ฉันกินได้ทุกอย่างอยู่แล้วน่ะค่ะ”
“รุ่นพี่ชอบของหวานเหรอคะ?”
comment in response to
post
“…ไม่ทราบค่ะ“ เธอไม่รู้ว่าฐานะทางการเงินแบบไหนเรียกว่าดีหรือไม่ดี
ไรระนั่งตัวตรงขึ้นมา พยายามปะติดปะต่อความทรงจำ
”จำได้แค่ว่าวันหนึ่งหนูก็มาอยู่ที่เมืองนี้แล้วค่ะ ไม่รู้ว่าผู้ปกครองเป็นใคร แต่เขาจะส่งเงินมาให้ทุกเดือนค่ะ“
แววตาไม่ได้ดูเศร้าสร้อย เธอพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
”เรื่องของเรื่องคือ เอ่อ เงินของแต่ละเดือนค่อยๆลดลงน่ะค่ะ…“
comment in response to
post
“ฉันกินอันอื่นได้เหรอคะ“ เธอหดนิ้วกลับมาไล่สายตาดูเมนูอื่น ครุ่นคิดแล้วชี้ลงไปใหม่
”แล้วถ้า เอ่อ อันนี้ล่ะคะ“
เป็นเซ็ตแพนเค้กอันเล็กๆราดน้ำผึ้งที่ราคาถูกรองลงมา แล้วไรระก็หดนิ้วกลับไปอีกรอบอย่างไม่แน่ใจ
”คือ ที่จริงฉันไม่รู้ว่าต้องกินอะไรดีน่ะค่ะ นอกจากแซนด์วิชกับ…มัฟฟิน? แล้ว ฉันก็ไม่เคยกินของอย่างอื่นเลยค่ะ…“ ทำหน้าหมอง
comment in response to
post
“หนูเป็นโลหิตจางค่ะ ตอนตรวจสุขภาพคุณหมอไม่แนะนำให้ออกกำลังกายหนักๆ”
เพราะแบบนั้น คาบพละส่วนมากเธอถึงนั่งอยู่ริมสนาม นั่งเหม่อลอย ไม่ก็วาดรูป
“แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ เอ่อ ก็มีนิดหน่อยค่ะ อย่างเรื่องค่าข้าว…“
เธอก้มมองเข่าตัวเอง นึกถึงเงินจากผู้ปกครองที่เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ตามเดือนที่ผ่านไป
comment in response to
post
“ชอบเจ้านี่น้อยที่สุดเหรอคะ?“
ไรระก้มมองดู มองหน้าเขานิดหน่อยอย่างสงสัย นัยน์ตาสีแดงนิ่งๆของเธอดูตั้งคำถามและขบขันเล็กน้อยอย่างไม่ตั้งใจ “แปลกคนจังค่ะ”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เธอรีบขอโทษทันทีที่รู้ตัวว่าเสียมารยาท หยิบขนมขึ้นมาถือไว้
“ฉันคิดว่ามันน่ากินมากกว่าเมื่อเทียบกับอย่างอื่นน่ะค่ะ”